Saturday, May 30, 2009

ร้านกาแฟ กับต้นไม้ คลอง 15


ร้านกาแฟ กับต้นไม้ แถวๆๆ คลอง 15 เป็นร้าน ที่อยู่ท่ามกลาง ร้านขาย ไม้ดอกไม้ประดับ...เรียบ คลอง 15
บรรยากาศ น่ารัก มาก ดูกันเอาเอง ละกัน...



























ร้านกาแฟ เลอเปอตี้ ที่เชียงราย..โดยเก็ดถวา

ห้องตะลุยเชียงราย เปิดไว้ตั้งแต่เริ่มต้นสมัครโอเคเนชั่นโน่นแน่ะค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะให้เป็นชื่อบล็อคเลย เพื่อเขียนถึงสถานที่ต่างๆ ในเชียงราย พี่ปรัตยา ใจดีช่วยตั้งชื่อให้ว่า ตะลุยเชียงราย บอกว่าฟังดูสนุกดี สุดท้าย ก็ถูกลดอันดับ กลายเป็นแค่ห้องเล็กๆ ในบล็อคนี้ (พี่ปรัตยาคงแอบว่าหนูในใจ) แถมยังกลายเป็นห้องเดียว ที่ยังไม่มีเรื่องราวอะไรมาใส่สักเรื่อง แต่แล้วโอกาสก็มาถึงค่ะ..
...
เก็ดถวาเป็นคนติดบ้านมาก เพราะมีบ้านเป็นโฮมออฟฟิศด้วย นอกจากเวลาลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลที่ต้องออกไปไกลๆ (และนานๆ) แต่แล้วคนติดบ้านอย่างเก็ดถวา ก็ไปหลงเสน่ห์บ้านเพื่อนเสียแล้วค่ะ
ตะลุยเชียงรายตอนแรก เก็ดถวาจะพาไปรู้จักกับร้านกาแฟแสนเก๋..ในเชียงรายค่ะ



...
เก็ดถวาเป็นคนติดบ้านมาก เพราะมีบ้านเป็นโฮมออฟฟิศด้วย นอกจากเวลาลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลที่ต้องออกไปไกลๆ (และนานๆ) แต่แล้วคนติดบ้านอย่างเก็ดถวา ก็ไปหลงเสน่ห์บ้านเพื่อนเสียแล้วค่ะ
ตะลุยเชียงรายตอนแรก เก็ดถวาจะพาไปรู้จักกับร้านกาแฟแสนเก๋..ในเชียงรายค่ะ
เลอเปอติ๊ด เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ภายในบ้านของเพื่อนค่ะ ในเชียงราย มีร้านกาแฟเปิดเยอะมาก ผุดกันขึ้นมาราวกับดอกเห็ด แต่ร้านนอย (นอยเป็นชื่อเจ้าของร้านค่ะ เรียกง่ายกว่าเลอเปอติ๊ดอ่ะ) เป็นร้านแสนเก๋ และมีสเน่ห์สุดๆ ค่ะ
สำหรับเก็ดถวาแล้ว ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวยามบ่าย ไม่มีที่ไหนจะเหมาะไปกว่า การได้ไปนั่งตากแอร์เย็นๆ ในสถานที่ ที่มีแต่มุมเก๋ มองไปทางไหนก็เจริญตา มีนิตยสารดีๆ อ่าน ได้นั่งละเลียด Hazelnut latte' แถมด้วยขนมอร่อยๆ สักชิ้น มีเสียงเพลงแจ๊ซเบาๆ (ที่เจ้าของร้านชอบ) ทำให้รู้สึกสบายจริงๆ ค่ะ
...




...
Hazelnut Latte' 1 แก้วโตๆ 65 บาท / Spanish Flan 1 ชิ้นสุดอร่อย 55 บาทค่ะ
...
ร้านนี้ปลูกขึ้นภายในบริเวณบ้านของเจ้าของนั่นแหละค่ะ เก็ดถวาอธิบายไม่ถูกนะคะ ว่าการจัดร้านเป็นอย่างไร เพราะของในร้านหลายชิ้น ก็เลือกมาจากหลายที่หลายทาง แต่เจ้าของร้าน จับเอามาเข้าคู่กันจนลงตัวและดูดีมากๆ




ป้ายชื่อร้านแสนเก๋ อยู่ด้านในของร้านค่ะ
...






โคมไฟผ้าฝ้าย และไหม ทอมือ ตกแต่งด้วยลูกปัดและตุ้มผ้าที่เห็นค่ะ ของจริงสวยมากๆ
...
บ่อยครั้งที่ร้านเลอเปอติ๊ด กลายสภาพเป็นสถานที่ประชุมกลุ่มย่อย ในร้าน จึงมีมุมเล็กๆ เป็นสัดส่วน แบบนั่งพื้นมีเบาะรองนั่ง เก็ดถวาเองก็ไปใช้มุมนี้ ประชุมทีมงานบ่อยๆ เป็นมุมที่นั่งได้ประมาณ 8 คนค่ะ
สำหรับคนที่ไม่ชอบแอร์ ก็มีมุมร่มรื่นข้างนอก เจ้าของร้านจัดเป็นสวนเล็กๆ ขุดเป็นสระน้ำเล็กๆ แล้วต่อระเบียงยื่นไปเหนือสระน้ำ ดูดีมากๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา (แหะๆ เพราะเก็ดถวานั่งแต่ข้างในที่มีแอร์นี่นา)




โคมไฟเพดานตรงจั่วหลังคาค


...
เจ้าของร้านยืนหันหลังทั้งคู่ เสื้อสีเทา คุณแจ๊ค โดม ทิวทอง เสื้อสีขาว ยัยนอย บางวันขายดีจนแทบไม่ได้นั่งเลยค่ะ

ถ้ามีโอกาสมาเชียงราย อย่าลืมแวะอุดหนุน ร้านของเพื่อนเก็ดถวานะคะ อยู่ในเมืองเลยค่ะ บนถนนสันโค้งน้อย ติดกับโรงเรียนบัณฑิตศึกษา ร้านปิดวันอาทิตย์นะคะ (เพื่อนหลายคนแอบนินทาว่า ปิดไม่เกรงใจลูกค้า) แต่ถ้าจะให้ดี จะไปเมื่อไร ชวนเก็ดถวาด้วยนะ อิอิ อยากไปอยู่เรื่อยๆ อ้ะ
...
...
เครดิตภาพ : แทน และ ปาป้า

Friday, May 29, 2009

MOKA Coffee & Bakery

จริงๆ ผมไม่ใช่คอกาแฟ แต่ชอบไปนั่งร้านกาแฟ ?? ฮ่าๆ ไม่ได้ไปดูสาวอย่างเดียวนะครับ แต่ชอบบรรยากาศของร้านกาแฟสมัยใหม่ เพราะบางร้านก็ตบแต่งสวย บางร้านมี WiFi ให้บริการ นั่งเล่นเน็ทไป จิบกาแฟไป วุ๊ย!! ไฮโซ ยิ่งได้ดูหนังเรื่อง Coffee Prince เลยพาลทำให้อยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองเข้าไปใหญ่ (เพราะชอบน้องยุน อึน เฮ ด้วยแหละ แหะๆ)
ช่วงนี้ผมเลยเก็บข้อมูลร้านกาแฟไปเรื่อยๆ ร้านไหนสวยต้องไปดู ร้านไหนอร่อยต้องไปชิม ไปๆ มาๆ เลยทำให้รู้ว่า บรรยากาศของร้านมีส่วนทำให้ลูกค้าเข้า แต่สำคัญที่สุดอยู่ที่รสชาติต่างหากล่ะ วันนี้ผมเลยอยากจะแนะนำร้านกาแฟรสชาติดีๆ ในนครสวรรค์ ที่ผมแวะไปประจำ MOKA Coffee & Bakery ครับ





ร้านกาแฟโมก้า แปลว่าอะไรเอาไว้ไปถามเจ้าของร้านเองนะครับ ผมไม่บอก ฮ่า ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงข้าม เทคนิคนครสวรรค์ครับ หาง่ายไม่ยากเพราะติดถนนสายหลัก ถ้ามาจากกรุงเทพก็วิ่งลงสะพานเดชา พอถึงสี่แยกใหญ่ๆ ให้เลี้ยวซ้ายตรงหัวมุม จะพบโรงเรียนกวดวิชา Enconcept Acadamy ตรงไปประมาณ 1.5 Km ก็จะพบสถาบันเทคนิคนครสวรรค์ ร้านอยู่ตรงกันข้ามเลยครับ ให้กลับรถแล้วจอดได้เลย…





เจ้าของร้านหนุ่มหล่อสาวสวย คั่วและชงเองกับมือรับประกันความอร่อย !!
ที่ร้านบรรยากาศเป็นกันเองครับ ร้านนี้จะเน้น Take Away มากกว่า แต่ก็ยังมีที่นั่ง แบบชิลๆ ทั้งด้านในและด้านนอก และแน่นอนร้านกาแฟก็ต้องขายกาแฟ เมล็ดกาแฟใช้ของดีครับคั่วเอง หอมฉุยเลย รสชาติกลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีพวกสมูทตี้ และชาเขียวสุดอร่อย สำหรับสาวๆ รักสุขภาพอีกด้วย มีกาแฟก็ต้องมีขนมด้วยสิถึงจะสมบูรณ์แบบ


ตอนผมไปถ่าย เค้กหมดไปแล้ว อดกิน T T

เจ้าของร้านฝากประชาสัมพันธ์ ตอนนี้ทางร้านมีบัตรสะสมแต้มด้วย สะสมครบ 5 แต้มรับกาแฟ 1 แก้วฟรี ยังไม่พอครับ เฉพาะวันเสาร์และวันหยุด รับแต้ม 2 เท่าฟรีคร๊าบบบ ใกล้ๆ ไปส่งให้อีก Delivery กันไปเลยเป็นไงครับ ถึงใจ และ ใจถึงจริงๆ อ้อ! เกือบลืมวันอาทิตย์ไม่ต้องไปนะครับ เพราะร้านปิด อิ อิ
แล้วก็ไม่ลืมหิ้วกลับบ้าน นี่ไงของโปรดผม อิ อิ ขอขอบคุณร้านกาแฟโมก้า มา ณ ที่นี่ด้วยนะคร๊าบบบบบบ…




ปล. เพิ่มเติมแผนที่อีกนิดจะได้หากันง่ายขึ้น ร้านเปิดจันทร์-เสาร์ 8.00-19.00 น.หรือโทรสั่งที่เบอร์ 056-225699

http://www.sawanpark.com/blog/

Wednesday, May 27, 2009

กาแฟโบราณ...



อะไรคือกาแฟโบราณ และแตกต่างจากกาแฟสดอย่างไร?

กาแฟโบราณคือกาแฟผสมไม่ใช่กาแฟแท้100%แบบกาแฟสดนะครับ ส่วนผสมนั้นมีอะไรบ้างแล้วแต่ราคาของกาแฟโบราณครับ แบ่งเป็นแบบเกรด1 เกรด2ครับ

เกรด1 จะเป็นกาแฟโบราณ100% จะประกอบไปด้วย กาแฟคั่วที่เคลือบด้วยน้ำตาลผสมกับงา

เกรด2 กาแฟโบราณที่มีส่วนผสมแบบต่างๆประกอบไปด้วย ข้าวโพดคั่ว ข้าวคั่วเคลือบน้ำตาล และกาแฟเกรด1 ดังนั้นเกรด2จะราคาถูกกว่าเกรด1ครับ
ราคานั้นมีตั้งแต่ 30 50 70บาท ส่วนเกรด1 ราคาอยู่ที่ 120บาทครับ***ขอย้ำตรงนี้นะครับว่า ไม่มีเม็ดมะขามนะครับ***พอทราบอย่างคร่าวๆแล้วนะครับ

วิธีการชงขึ้นอยู่กับการเลือกใช้กาแฟครับ ทักษะ ประสบการณ์ก็สำคัญเช่นกัน ขอแนะนำวิธีการชงสักนิดหน่อยแล้วกันนะครับ

เริ่มต้นก็ต้องต้มน้ำ น้ำต้องเดือดมากๆนะครับยิ่งร้อนจะทำให้คั้นกลิ่นและรสชาดได้มากกว่าน้ำร้อนธรรมดาครับ เวลาหาร้านดีดีให้สังเกตุที่หม้อต้มน้ำนะครับ เวลาเขาชงอยู่ถ้ามีไอน้ำมากหน่อยน้ำเดือดมากเป็นร้านที่มีมาตรฐานครับ
เรื่องกาแฟก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ต้องเลือกกาแฟที่มีเนื้อกาแฟมากหน่อยจะดีกว่า ความหอมและรสชาดจะดีกว่าครับ

เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับกาแฟโบราณ สิ่งแรกที่จำเป็นต้องรู้ คือน้ำที่ต้มต้องไม่มีกลิ่นถ้าใช้น้ำประปาต้องทิ้งไว้ 1-3คืนเป็นอย่างน้อยหรือน้ำขวดที่มีรถมาส่งตามบ้าน การต้มน้ำชงกาแฟโบราณน้ำต้องเดือดจัดจะประหยัดแก๊สไม่ได้เลยเพราะกาแฟจะไม่ออกรสสำหรับกาแฟโบราณที่ใส่ดูสีความเข็มเป็นหลักซึ่งต้องอาศัยความชำนาญบ้าง สูตรการชงเป็นเรื่องของแต่ละร้าน บางร้านใช้นมข้นกับนมสดบางร้านใส่น้ำตาลทรายบ้าง บางร้านใช้ครีมข้นหวานซึ่งแล้วแต่เจ้าของ ต้วกาแฟเองถ้าไม่ซื้อจากแฟชายถ้ามีเวลาลองเดินดูแถวๆวงเวียน 22 กรกฏา (เยาวราช)มีให้เลือกมากมายซึ่งเป็นกาแฟบี๊บขายเป็นกิโลกรัมสำหรับอุปกรณ์หาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องครัว แต่ที่สำคัญที่สุดของการเปิดร้านกาแฟคือตัวเจ้าของไม่ใช่เรื่องการมีความรู้เรื่องกาแฟวิธีการ หรือมีร้านที่สวยงามน่าใช้บริการ สำหรับผู้ที่คิดจะทำสำคัญคือต้องมีจิตใจรักในการบริการเป็นที่ 1 มีใจรักในการศึกษาหาความร้รอบด้าน มีใจที่จะเป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับเป็นนักฝันและนักสร้างฝ้นควบคู่กัน ร้านกาแฟเก่าแก่และร้านดังๆจะหนีไม่พ้นแนวคิดข้างต้นครับ

Sunday, May 24, 2009

การประชาสัมพันธ์ร้านกาแฟสด..ให้เป็นที่รู้จักของลูกค้า




การประชาสัมพันธ์ร้านกาแฟสด
เพิ่มลูกค้าเข้าร้านกาแฟด้วยการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นภารกิจโดยตรงของเจ้าของร้าน
ในการทำธุรกิจจะต้องมีการโปรโมทสินค้าหรือร้านค้าให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนทั่วไป ไม่เว้นแม้กระทั่งร้านกาแฟสด ถึงแม้จะมีหน้าร้านมีคนเห็นและเดินผ่านไปมา ก็จำเป็นต้องเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักของผู้คน ทั้งที่เดินผ่านและบริเวณใกล้เคียงในรัศมี 1 -2 กม. ลักษณะการบริการลูกค้าคือ การให้ลูกค้าเดินเข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟหรือแวะซื้อกาแฟ แต่ถ้ามีพนักงานเพียงพอ อาจจะเพิ่มบริการส่งลูกค้าบริเวณใกล้เคียงได้ ถ้าเป็นร้านขนาดเล็กอยู่กลางแจ้ง ก็ควรเพิ่มความเด่นสดุดตาด้วยโทนสีและอาจมีลูกโปร่งตกแต่งเล็กน้อย ข้อควรระมัดระวังกรณีร้านกาแฟตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งก็คือฝุ่นละออง คงไม่มีใครอยากจะดื่มกาแฟและเมนูอื่นๆคลุกเคล้ากับฝุ่น ต้องหาวัสดุที่เป็นพลาสติกใสหรือกระจกใสปิดให้สนิท อย่าให้ฝุ่นกระจายเข้าไปภายในเคาน์เตอร์กาแฟ แต่ถ้าร้านกาแฟตั้งอยู่ภายในอาคารและด้านหน้าเป็นถนนคนเดินหรือรถวิ่งผ่าน ก็ต้องระวังเรื่องฝุ่นละอองเช่นกัน ต้องจัดการส่วนนี้ให้ได้

การประชาสัมพันธ์ร้านกาแฟ
1. ขึ้นป้ายขนาดใหญ่และเด่นๆด้านหน้าร้าน แต่ห้ามบังหน้าร้าน อาจจะขึ้นป้ายทั้งด้านหน้า ด้านข้างทั้ง 2 ด้านให้รู้ว่าเป็นร้านกาแฟสด เขียนข้อความโฆษณาที่โดนใจผู้ที่พบเห็น
2. อาจจะให้พนักงานยืนแจกแผ่นพับและเชิญชวนบริเวณด้านหน้าร้านในบางครั้ง
3. แจกแผ่นพับบริเวณใกล้เคียงในรัศมีประมาณ 1-2 กม. ข้อความบนแผ่นพับต้องเขียนโดนใจผู้อ่าน
4. ทำคูปองส่วนลดพิเศษแจกลูกค้า
5. จัดกิจกรรมในบางวัน ให้เป็นวัน Coffee Happy Time
และเทคนิคอื่นๆที่เจ้าของร้านกาแฟแต่ละร้านคิดขึ้นมาได้ และเห็นว่าเหมาะสมสำหรับประชาสัมพันธ์ร้านกาแฟของท่าน กลยุทธ์แต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันในการทำให้ลูกค้ารู้จักร้านกาแฟของเรา และเข้ามาใช้บริการดื่มกาแฟ แต่จุดที่สำคัญอีกจุดหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้และไม่ควรมองข้ามด้วย นั่นก็คือเมนูเครื่องดื่มกาแฟ ซึ่งเป็นเมนูหลักต้องมีความอร่อยที่โดดเด่นมากๆรวมถึงเมนูประกอบส่วนอื่นๆก็ต้องอร่อยถูกใจลูกค้าทุกคนที่ได้ลิ้มรส การประชาสัมพันธ์จะไร้ผล ถ้าสินค้าคือกาแฟและเมนูอื่นๆไม่อร่อย ดังนั้นคุณต้องพัฒนาบริหารและจัดการรสชาดทุกเมนูให้อร่อยมากๆไปพร้อมกับการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง อย่าลืมว่าการประชาสัมพันธ์ร้านที่ดีที่สุดและไม่ต้องลงทุนอะไรมากจนเกินไป ก็คือการทำให้กาแฟสดและเมนูอื่นๆอร่อยถูกใจลูกค้าทุกๆคน ซึ่งจะมีผลให้มีการบอกต่อของลูกค้า ปากต่อปากไปเรื่อยๆเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับร้านโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องเหนื่อยแรง คุ้มค่าและตรงจุดมากที่สุด เมื่อทุกๆเมนูมีรสอร่อยมากๆ การประชาสัมพันธ์ก็ง่ายขึ้น พูดได้เต็มคำอย่างภาคภูมิใจว่าร้านกาแฟของเราอร่อยมากๆ ถ้าใครได้ลิ้มรสในครั้งแรกก็ติดใจไปอีกนาน และจะต้องกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน นี่คือหมัดเด็ดของร้านกาแฟสด ทุกคนสามารถทำได้ ถ้าตั้งใจทำอย่างจริงจัง

เทคนิคการเลือกทำเลร้านกาแฟสด



ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องจริงสำหรับธุรกิจร้านกาแฟ
แฟรนไชส์กาแฟสดต้นทุนต่ำ ผู้ให้บริการเปิดร้านกาแฟสดต้นทุนต่ำแบบมืออาชีพทั่วไทย ฟรีค่าแฟรนไชส์และค่าธรรมเนียมต่างๆตลอดชีพ ฝึกอบรมต่างๆให้ฟรีๆ
ทำเลหรือแหล่งที่ตั้งของธุรกิจ ทำเลคือหัวใจของธุรกิจร้านกาแฟสดเลยก็ว่าได้ การเลือกทำเลที่ตั้งร้านกาแฟสด ควรปฏิบัติดังนี้.-

1. เลือกแหล่งที่เป็นชุมชนขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เช่น ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงพยาบาล หรือแหล่งที่มีผู้คนจำนวนมาก
2. ดูว่าที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายว่าเป็นคนกลุ่มใด ( เลือกศักยภาพในการซื้อหรืออำนาจในการจ่ายเงินของกลุ่มลูกค้านั่นเอง )
3. เลือกจุดหรือบริเวณที่ตั้งของร้าน โดยดูทิศทางคนเดินผ่าน คนมองเห็นได้ง่าย พื้นที่ตั้งสะอาด อากาศถ่ายเทได้ดี
4. วิเคราะห์ความเหมาะสมในการทำธุรกิจร้านกาแฟสดสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการคัดเลือกทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟสด ไม่ควรเลือกทำเลที่แออัดด้วยมลพิษมากจนเกินไป หรือทำเลที่คับแคบจนแทบกระดิกตัวไม่ได้หรือทำเลที่สกปรก ใกล้แหล่งขยะหรือแหล่งที่ผู้คนไม่ค่อยเดินกัน บริเวณที่ฝุ่นมาก ซึ่งจะทำให้ภาพลักษณ์ของร้านกาแฟสดของเราเสียไปได้ง่าย
ที่สุดของความสำเร็จสำหรับร้านกาแฟสด
การสร้างความสำเร็จในธุรกิจ คุณต้องมีจุดดีและจุดเด่นๆที่ไม่เหมือนใคร แต่โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะสร้างจุดเด่นในลักษณะใดก็ตาม หัวใจหลักๆของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านกาแฟสด สรุปสั้นๆมีอยู่ 2 อันดับความสำคัญด้วยกันดังนี้ .-
1. ความสำคัญอันดับแรกที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักๆคือ รสชาดของกาแฟ รสชาดต้องอร่อยจริงๆดื่มทุกครั้งต้องอร่อยทุกครั้งรสชาดไม่มีผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐาน ลูกค้าทุกคนดื่มกาแฟของคุณแล้วติดใจในความอร่อย ถ้าเมนูอื่นๆก็อร่อยไม่น้อยไปกว่ากาแฟ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มค่าร้านของคุณเป็นอย่างดี ถ้ากาแฟและเมนูอื่นๆก็ไม่อร่อยเลย ทำเลก็ไม่ดี เจ้าของก็ไม่ได้ให้ความสนใจในธุรกิจ จุดนี้คือจุดตายของร้านกาแฟทั่วไปที่ทำแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ถึงแม้จะลงทุนจำนวนมากมาย แต่ถ้าทำรสชาดของกาแฟให้อร่อยไม่ได้ก็จอดตรงนั้น
2. ทำเลดี ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับรองลงมา คุณลองนึกภาพดู ถ้ากาแฟรสอร่อยมากๆ บวกกับทำเลดีเยี่ยม ถือว่าชัยชนะมาเยี่ยมคุณเรียบร้อยแล้ว ในส่วนเรื่องอื่นๆเป็นเพียงปัจจัยรอง แต่ปัจจัยที่สำคัญหลักๆจะอยู่ที่ ข้อ 1 + 2
ภารกิจหลักและหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของร้านกาแฟคือ การเติมความอร่อยมากๆของรสชาดกาแฟและเมนูประกอบอื่นๆให้กับลูกค้าของคุณทุกๆคน ที่เข้ามาใช้บริการดื่มกาแฟที่ร้าน จงทำให้ร้านของคุณมีเสน่ห์ในทุกๆด้าน เพื่อมัดใจลูกค้าทุกๆคน แล้วเงินจะหลั่งไหลเข้ากระเป๋าของคุณอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันร้านกาแฟสดเป็นธุรกิจหลักและธุรกิจเสริมที่ไปได้ดีกับธุรกิจต่างๆมากมาย ดังนี้
ร้านเบเกอรี่
ร้านอาหาร
ร้านอินเตอร์เน็ทคาเฟ่
ร้านสปา ร้านทำผม
ร้านหนังสือ
คาร์แคร์
ร้านประดับยนต์
ร้านเช่า ขาย วีซีดี
มินิมาร์ท
ร้านขายยา โรงพยาบาล
มหาวิทยาลัย
หน่วยงานราชการ ฯลฯ
จะเห็นได้ว่า ธุรกิจกาแฟสดไปได้ดี ในทุกๆที่ ที่มีคนผ่านเข้าออก ไปมา มากๆ และธุรกิจที่ลูกคาต้องนั่งรอเป็นเวลานานๆ สามารถสร้างรายได้ง่ายๆให้กับเจ้าของกิจการที่มีหน้าร้านเป็นของตนเองอยู่แล้ว หรือลูกค้าที่ต้องการเช่าพื้นที่หน้าร้านต่างๆเหล่านี้ จะสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย ใช้พื้นที่ไม่มาก ไม่ต้องลงทุนมากมาย แต่เห็นรายได้แน่นอน
จะเห็นได้ว่า ถ้าเลือกทำเลที่ตั้งร้านกาแฟได้ดี ก็เท่ากับมีชัยหรือสำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ดังนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งจึงมองข้ามไม่ได้ กรณีที่ไม่มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกทำเล ควรปรึกษาผู้ที่เชี่ยวชาญในการคัดเลือกทำเล ถ้าเป็นการให้คะแนนเต็ม 100 คะแนน ทำเลนำไปแล้วไม่น้อยกว่า 50 คะแนน ส่วนที่เหลือคือ คุณภาพของสินค้า การบริหารและการจัดการต่างๆ แต่ก็มีบางกรณีที่ทำเลแทบไม่ได้คะแนนเลย แต่ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เป็นเพราะอะไรต้องมาวิเคราะห์ดู ว่าเขามีกลยุทธ์หรือเทคนิคพิเศษ มีอะไรดีๆเด่นๆที่ไม่ธรรมดา ซึ่งถือว่าเป็นจุดขายหรือเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเขาเองที่สร้างขึ้นมา สมาชิกร้านกาแฟสดทุกท่านต้องพยายามหาจุดเด่นๆของตัวเอง ซึ่งอาจจะสร้างขึ้นมา ให้เป็นแบบร้านกาแฟธรรมดาที่ไม่ธรรมดาให้ได้ แล้วคุณจะชนะตลอดไป ต้องหมั่นพัฒนาตัวเอง พัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สร้างเสน่ห์ให้กับธุรกิจ เพิ่มศักยภาพให้กับร้านกาแฟสดวันนี้ด้วยทำเลที่เหมาะสม


นอกจากความสำเร็จที่ขึ้นกับทำเลแล้ว เจ้าของร้านกาแฟสดต้องควบคุมคุณภาพด้านต่างๆให้ดีเยี่ยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของสินค้า การบริการลูกค้า การบริหารจัดการด้านต่างๆ เพราะร้านกาแฟสดถึงจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กก็จริง แต่ก็ต้องบริหารจัดการให้เป็นและถูกต้อง ธุรกิจมีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาต้องตามให้ทัน การพัฒนาร้านกาแฟต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการพัฒนาลูกค้า ต้องขยันเพิ่มลูกค้าใหม่ๆเข้าร้านกาแฟให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาฐานลูกค้าที่มีอยู่เดิมให้กลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นี่คือกลยุทธ์แห่งความสำเร็จของทุกๆธุรกิจ ซึ่งรวมถึงร้านกาแฟสดด้วย

ถึงแม้ทำเลจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจร้านกาแฟสด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและสำคัญเหนือกว่าทำเล คือ รสชาดของกาแฟและเมนูอื่นๆที่ขาย เมนูหลักคือกาแฟ รสชาดต้องอร่อยประทับใจคนดื่มจริงๆ และคงความอร่อยอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ไม่ใช่วันจันทร์อร่อย แต่พอมาดื่มกาแฟวันพุธกลับไม่มีรสความอร่อยหลงเหลืออยู่เลย ต้องพยายามรักษาความอร่อยของกาแฟเมนูหลักอย่างสุดชีวิต ประเภทผิดพลาดไม่ได้ เพราะความอร่อยของสินค้าที่เราขายจะนำพาเงินจำนวนมากมาให้เราอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถึงทำเลจะดีเยี่ยมขนาดใด ถ้ารสชาดของกาแฟไม่ได้เรื่องหรือไม่มีความอร่อยเลย ก็ยากที่จะประสบผลสำเร็จ ทำเลดีๆนั้นหายากและไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ตามความต้งเจ้าของการ แต่รสชาดความอร่อยของกาแฟและเมนูอื่นๆเราสามารถสร้างขึ้นด้วยมือของเราได้ ไม่ต้องเช่าหาที่ใด ไม่ต้องประมูลให้เสียเงิน แต่เกิดจากการพัฒนา การบริหารและการจัดการของร้านกาแฟ ขอให้จำหัวใจหลักๆที่จะทำให้ร้านกาแฟประสบผลสำเร็จแบบยั่งยืนและถาวรได้ดังนี้.-

1. อันดับแรกที่สุด กาแฟและเมนูอื่นๆต้องอร่อยถูกใจทุกๆคนจริงๆ ถ้าทำให้อร่อยได้ไม่ครบทุกเมนู แต่อย่างน้อยเมนูหลักอย่างกาแฟ ต้องอร่อยมาเป็นที่หนึ่ง ส่วนเมนูอื่นๆเป็นส่วนประกอบรอง ถ้าทำให้อร่อยได้ทุกๆเมนูก็ยิ่งเป็นการดีมากๆเป็นการเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับร้านโดยอัตโนมัติ
2. ทำเลดี มีคนผ่านจำนวนมากในแต่ละวันหรือเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ถ้าบวกด้วยกาแฟรสชาดอร่อยมากๆจะทำให้ธุรกิจของคุณรุ่งเรืองแบบยั่งยืนได้
ในส่วนอื่นๆเช่นการตกแต่งร้าน การโปรโมทร้าน ฯลฯ เป็นส่วนประกอบรองๆคุณสามารถบริหารและจัดการได้อย่างง่ายๆ
เมื่อเลือกทำเลได้ดีแล้ว รสชาดของกาแฟต้องมาตรฐาน โดนใจลูกค้า รวมถึงคุณภาพการบริการลูกค้าก็ต้องเป็นหนึ่งไปด้วย ถ้าทุกๆอย่างสัมพันธ์กัน ธุรกิจก็จะไปได้ดีอย่างต่อเนื่องตลอดไป

เทคนิคการทำร้านกาแฟสด



แนะนำเทคนิคและกลยุทธ์การสร้างธุรกิจร้านกาแฟหรือการสร้างร้านกาแฟสดแบบเหมาะสมและแบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ว่าท่านจะทำร้านกาแฟสดเป็นงานหลักหรือทำร้านกาแฟเป็นงานเสริมรายได้ ก็สามารถนำไปประยุกต์เป็นแนวทางในการเริ่มต้นทำร้านกาแฟสด

คุณสมบัติสำหรับผู้ที่จะทำร้านกาแฟสด
1. ผู้ประกอบการที่สนใจจะลงทุนธุรกิจร้านกาแฟ ควรมีความพร้อมในเรื่องของความตั้งใจจริงความมุ่งมั่นและเงินลงทุนพอสมควร
2. ผู้ประกอบการต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากหัวใจสำคัญของการทำร้านกาแฟอยู่ที่การเลือกทำเลที่ตั้ง หากขาดทำเลที่ตั้งที่ดีแล้ว โอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านนี้นับว่ายากพอสมควร นอกจากมีกลยุทธ์ที่เหนือชั้นจริงๆ
3. ผู้ประกอบการควรมีความรู้ในศาสตร์ของกาแฟอยู่บ้าง เพราะการผลิตเครื่องดื่มกาแฟถือเป็นงานศิลปะและศาสตร์อย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ความเข้าใจในส่วนนี้จะช่วยในเรื่องการขาย การบริการ และการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ผู้ประกอบการต้องหมั่นพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
4. มีใจรักในกาแฟและการบริการเป็นทุนเดิม สนใจในการลงทุนในธุรกิจกาแฟ การทำร้านกาแฟสดเริ่มต้นจากการมีเงินลงทุนสักก้อน ( มากน้อยตามความเหมาะสมของฐานะแต่ละคน )
ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจร้านกาแฟสดจากหนังสือหรือเว็บไซต์ในเบื้องต้น หลังจากนั้นมาถึงขั้นตอนเลือกว่าจะซื้อแฟรนไชส์กาแฟที่ให้บริการหรือจะหาซื้ออุปกรณ์กาแฟแต่ละที่ แล้วลงทุนไปเรียนรู้ในเรื่องของการทำธุรกิจร้านกาแฟสด ก็ต้องเลือกว่าแบบใดดีกว่า

หลักในการเลือกแฟรนไชส์กาแฟสดต้องเปรียบเทียบให้ดี เพราะมีผู้ให้บริการหลายเจ้า คัดเลือกเจ้าที่ให้ประโยชน์มากที่สุดและมีความยืดหยุ่นสูง ถ้าเป็นประเภทฟรีค่าแฟรนไชส์ได้ยิ่งเป็นการดี เพราะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม และหักเปอร์เซ็นจากยอดขาย ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนมีกำไรเพิ่มขึ้น และประการสำคัญคือถึงจุดคุ้มทุนได้เร็ว เมื่อคัดเลือกได้ตามความต้องการแล้ว หลังจากนั้นเริ่มหาทำเลที่เหมาะสม ( หรือจะทำไปพร้อมกันกับการคัดเลือกแฟรนไชส์ก็สามารถทำได้ )
หลักการคัดเลือกทำเลสำหรับการทำร้านกาแฟสด ทำเลถือว่ามีความสำคัญมากพอสมควร ถ้าได้ทำเลดีเท่ากับมีชัยไปเกินครึ่ง ดังนั้นการคัดเลือกทำเลจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทำเลคือหัวใจของธุรกิจร้านกาแฟเลยก็ว่าได้

การเลือกทำเลที่ตั้งร้านกาแฟ ควรพิจารณาจากสิ่งต่างๆดังต่อไปนี้
1. ควรเลือกทำเลร้านกาแฟสดที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เช่น แหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หรือแหล่งที่มีผู้คนจำนวนมาก
2. การเดินทางไปมาสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ผู้คนเดินผ่านไปมาในแต่ละวันจำนวนมาก กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อพอสมควร
3. ควรเลือกจุดหรือบริเวณที่ตั้งของร้านกาแฟให้เหมาะสม ปรับหน้าร้านกาแฟไปทางทิศที่มีผู้คนเดินผ่าน มองเห็นได้ง่าย สะดุดตา พื้นที่ตั้งร้านกาแฟสดสะอาดดูดี อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีสิ่งใดมาบดบังหน้าร้านกาแฟ
4. ทำเลร้านกาแฟสดไม่ควรติดถนนมากจนเกินไป เนื่องจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายและอันตรายจากยานพาหนะที่วิ่งผ่านไปมา
5. พื้นที่เหมาะสมไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
6. ราคาค่าเช่าร้านกาแฟสดเหมาะสม ไม่แพงจนเกินไปสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการคัดเลือกทำเลที่ตั้งของร้านกาแฟสด คือไม่ควรเลือกทำเลที่มีความแออัดด้วยมลพิษทั้งเสียงและฝุ่นมากจนเกินไป หรือทำเลที่คับแคบหรือทำเลที่สกปรกน้ำเน่าเหม็น อยู่ใกล้กับแหล่งขยะ เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของร้านกาแฟของเราเสียได้ง่ายๆและไม่มีคนเข้าไปใช้บริการ
สั่งซื้อชุดเปิดร้านกาแฟในการเลือกซื้อชุดเปิดร้านกาแฟสดนั้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับงบประมาณที่กำหนดไว้ และขนาดของทำเลที่เลือกไว้
เข้ารับการอบรมหรือเรียนการทำธุรกิจร้านกาแฟสดจากผู้รู้หรือจากเจ้าของแฟรนไชส์ เพื่อจะได้นำมาดำเนินการทำร้านกาแฟต่อไป

เมื่อทุกอย่างพร้อมเรียบร้อยแล้ว ก็จะถึงเวลาเปิดทำการให้เป็นรูปธรรมสักที การเปิดร้านกาแฟสดสามารถทำได้ในทุกๆวัน วันดีที่ถือว่าเป็นวันที่ดีที่สุดก็คือวันที่คุณมีความพร้อมในทุกๆด้านนั่นเอง ฤกษ์ที่ดีที่สุดคือวันที่คุณมีความพร้อมนั่นเอง

ภารกิจที่ถือว่าสำคัญต่อไปคือ ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟสดให้เต็มรูปแบบ นั่นก็คือการบริหารและจัดการร้านกาแฟให้ดีที่สุด การกำหนดราคาในแต่ละเมนูให้เหมาะสม ราคาก็ถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าพิจารณาอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน การกำหนดราคาให้ดูกลุ่มลูกค้าและทำเลเป็นหลัก รวมถึงต้นทุนดำเนินการ การสร้างเอกลักษณ์ของร้านกาแฟสด หรือการสร้างแบรนด์ ก็เป็นเรื่องสำคัญทีไม่ควรมองข้าม แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือรสชาดของกาแฟสดและเมนูประกอบอื่นๆ ต้องพัฒนาให้อร่อย ถูกใจและประทับใจลูกค้าทุกๆคน

ที่สุดของความสำเร็จสำหรับร้านกาแฟสด
การสร้างความสำเร็จในธุรกิจ คุณต้องมีจุดดีและจุดเด่นๆที่ไม่เหมือนใคร แต่โดยสรุปแล้ว ไม่ว่าจะสร้างจุดเด่นในลักษณะใดก็ตาม หัวใจหลักๆของความสำเร็จในการทำธุรกิจร้านกาแฟสด สรุปสั้นๆมีอยู่ 2 อันดับความสำคัญด้วยกันดังนี้ .-
1. ความสำคัญอันดับแรกที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักๆคือ รสชาดของกาแฟ รสชาดต้องอร่อยจริงๆดื่มทุกครั้งต้องอร่อยทุกครั้งรสชาดไม่มีผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐาน ลูกค้าทุกคนดื่มกาแฟของคุณแล้วติดใจในความอร่อย ถ้าเมนูอื่นๆก็อร่อยไม่น้อยไปกว่ากาแฟ ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าร้านของคุณเป็นอย่างดี ถ้ากาแฟและเมนูอื่นๆก็ไม่อร่อยเลย ทำเลก็ไม่ดี เจ้าของก็ไม่ได้ให้ความสนใจในธุรกิจ จุดนี้คือจุดตายของร้านกาแฟทั่วไปที่ทำแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ถึงแม้จะลงทุนจำนวนมากมาย แต่ถ้าทำรสชาดของกาแฟให้อร่อยไม่ได้ก็จบลงตรงนั้น ความอร่อยมีหลายระดับ ขอให้ความอร่อยของรสชาดกาแฟสดร้านของท่านให้อยู่ในระดับอร่อยมากที่สุด นี่คือเคล็ดไม่ลับของธุรกิจที่ทุกคนสามารถทำได้ทุกโอกาส
2. ทำเลดี ซึ่งมีความสำคัญเป็นอันดับรองลงมา คุณลองนึกภาพดู ถ้ากาแฟรสอร่อยมากๆ บวกกับทำเลดีเยี่ยม ถือว่าชัยชนะมาเยี่ยมคุณเรียบร้อยแล้ว ในส่วนเรื่องอื่นๆเป็นเพียงปัจจัยรอง แต่ปัจจัยที่สำคัญหลักๆจะอยู่ที่ ข้อ 1 + 2ภารกิจหลักและหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของร้านกาแฟคือ การเติมความอร่อยมากๆของรสชาดกาแฟและเมนูประกอบอื่นๆให้กับลูกค้าของคุณทุกๆคน ที่เข้ามาใช้บริการดื่มกาแฟที่ร้าน จงทำให้ร้านของคุณมีเสน่ห์ในทุกๆด้าน เพื่อมัดใจลูกค้าทุกๆคน แล้วเงินจะหลั่งไหลเข้ากระเป๋าของคุณอย่างต่อเนื่อง
3. การบริการและความสะอาดที่เป็นเยี่ยม ซึ่งเป็นภาพลักษณ์โดยตรงของร้านกาแฟสด เพราะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าคือกาแฟสดกับการบริการ ซึ่งต้องดีเยี่ยมทั้งคู่

Sunday, May 17, 2009

ทำธุรกิจร้านกาแฟสดต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง?



ในการทำธุรกิจทุกชนิด ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะเล็กหรือใหญ่เพียงใด คุณจำเป็นต้องมีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่คุณทำอยู่อย่างละเอียดและลึกซึ้งพอสมควร ยิ่งมีความรู้ความเข้าใจมากแบบทะลุทุกมิติได้ยิ่งเป็นการดีมากๆ เพราะเท่ากับเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้กับคุณ คุณต้องนำความรู้เหล่านี้มาใช้ประกอบในการบริหารและจัดการร้านกาแฟสดของคุณ ในปัจจุบันความรู้ต่างๆสามารถเสาะแสวงและค้นคว้าได้จากทั้งในหนังสือวารสารรวมถึงข้อมูลในอินเตอร์เนต คุณขยันหาความรู้ก็จะหลั่งไหลมาหาคุณ

การที่คุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟสด คุณจำเป็นต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง? หลังจากที่คุณเปิดร้านกาแฟสดสำเร็จแล้วเป็นจุดเริ่มแรก ขั้นต่อไปคือวางแผนในการบริหารจัดการธุรกิจให้ดีในทุกๆด้าน ซึ่งร้านกาแฟสดจะเกี่ยวข้องกับการบริหารและจัดการในสิ่งต่อไปนี้ 1. คน(คุณ,พนักงานขาย,ลูกค้า) 2. สินค้า(กาแฟสดและเมนูอื่นๆ) 3. การบริการ(การให้บริการที่ดีเยี่ยมกับลูกค้า) และอื่นๆในขณะที่คุณเป็นเจ้าของร้านกาแฟสด คุณก็เป็นผู้จัดการทุกๆอย่างในร้านไปโดยอัตโนมัติ

โจทย์ที่สำคัญที่สุดสำหรับร้านกาแฟหรือธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งรวมไปถึงอาหารคือ รสชาด ถ้ารสชาดกาแฟสดของคุณอร่อยมากๆรวมถึงเมนูประกอบอื่นๆก็อร่อยไม่แพ้กัน มนุษย์ทุกๆคนต้องการลิ้มรสความอร่อยเป็นอันดับแรก มากกว่าคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งถือเป็นสัจธรรมของมนุษย์ ดังนั้นหน้าที่ของคุณที่เป็นเจ้าของร้านกาแฟสด คือการบริหารและจัดการให้ทุกเมนูมีความอร่อยเป็นพิเศษ ที่ลูกค้าต้องติดใจในรสชาดไปอีกนานแสนนาน ต้องให้ลูกค้าภูมิใจและประทับใจในสินค้าและบริการของคุณ แล้วเงินทองจะหลั่งไหลมาหาคุณโดยอัตโนมัติ คุณทำได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจจริงที่จะทำให้ได้ ไม่มีอะไรที่มนุษย์ทำไม่ได้ ยกเว้นการไม่ได้ลงมือทำเท่านั้น

การพัฒนารสชาดของแต่ละเมนูกาแฟหรือเมนูอื่นๆที่มีความอร่อยอยู่แล้ว คุณอย่าหยุดอยู่เพียงเท่านั้น อย่าลืมว่า รสชาดความอร่อยมีหลายระดับ เช่น อร่อย(ธรรมดา) , อร่อยพอใช้ได้, อร่อยมาก , อร่อยมากที่สุด(อร่อยจริงๆ) คุณต้องพัฒนารสชาดไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้ ( อยู่ในวิสัยที่มนุษย์ทำได้ ) การพัฒนารสชาดความอร่อยของกาแฟสดเกี่ยวข้องกับสิ่งใดบ้าง?ถ้าหากร้านกาแฟของคุณต้องการให้กาแฟมีรสชาดอร่อยกว่าร้านอื่น คุณจะต้องทราบว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อรสชาดของกาแฟ ซึ่งปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อรสชาดของกาแฟมีด้วยกัน 5 ส่วนดังนี้

1. ชนิดของกาแฟ การเลือกกาแฟ ผู้ขายจะต้องเรียนรู้ว่ากาแฟอะไร มีกลิ่นหอม และรสชาดที่แตกต่างกันอย่างไร และใช้กาแฟบด หรือกาแฟสำเร็จรูป ในกลุ่มของกาแฟคั่วบด จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
- สเตรทคอฟฟี่ (Straight coffee) หมายถึง พันธุ์อาราบิก้าแท้ 100% ที่มาแหล่งปลูกเดียวกัน เช่น บราซิล เคนย่า จาไมก้า บลูเม้าเท่น เป็นต้น
- คอฟฟี่ เบล็นด์ เป็นการใช้กาแฟผสมกัน เช่น พันธุ์อาราบิก้าผสมกับ โรบัสต้า หรือใช้พันธุ์อาราบิก้า 2 ชื่อขึ้นไปผสมกัน

2. การคั่วบด กาแฟที่มีรสชาดอ่อน และรสเข้มนั้น เกิดจากการคั่วบด และวิธีการบดหยาบหรือละเอียด ซึ่งก็เป็นตัวแปรอีกประการหนึ่งของรสชาดของกาแฟแตกต่างกัน กาแฟที่บดหยาบรสชาดจะอ่อนกว่ากาแฟที่บดละเอียด ก่อนบดกาแฟทุกครั้งขอให้แน่ใจว่าเป็นกาแฟชนิดไหน เพื่อให้ได้ขนาดของเกล็ดกาแฟที่เหมาะกับอุปกรณ์ โดยหลักของการบดกาแฟที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ ระยะเวลาของน้ำชงผ่านกาแฟ เพราะฉะนั้นเวลาที่ใช้ในการชงกาแฟ ยิ่งเร็ว เกล็ดของกาแฟ จะยิ่งละเอียด หรือเวลาที่ใช้ในการชงกาแฟยิ่งช้า เกล็ดของกาแฟจะยิ่งหยาบลง

3. วิธีการชง วิธีการชงกาแฟจะมีหลายแบบด้วยกัน คือแบบกระดาษกรอง แบบใช้แรงดัน หรือแบบเครื่องชงอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการชงก็จะมีผลที่ทำให้รสชาดของกาแฟออกมาไม่เหมือนกัน

4. ส่วนผสมพิเศษต่าง ๆ ชนิดของส่วนผสมพิเศษ เช่น น้ำตาล ครีม ทำให้รสชาดของกาแฟแตกต่างกันออกไป จะเห็นว่าแต่ละร้านมีการเลือกส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น คาปูชิโน บางแห่งก็ใช้นมสด บางแห่งให้นมถั่วเหลือง และไซรัปที่ใส่ในกาแฟ ช็อคโกแลต คาราเมล วานิลา น้ำผึ้ง เครื่องเทศ สุรา ไอศกรีม และวิปปิ้งครีมต่าง ๆ สามารถนำมาประยุกต์ทำเป็นสูตรของตัวเองที่ทำให้รสชาดที่แตกต่างไปจากร้านอื่นได้

5. การเก็บรักษา กาแฟที่สัมผัสกับอากาศนั้นจะทำให้กลิ่นหมดไปและมีผลต่อรสชาด ดังนั้นผู้ที่ขายกาแฟจะต้องให้ความสำคัญ ศึกษาวิธีการเก็บรักษา ควรเก็บกาแฟคั่วบดให้อยู่ในภาชนะที่ปิดสนิท ไม่ให้อากาศหรือความชื้นเข้าได้ วางให้ห่างจากอาหารที่มีกลิ่นแรง ห่างจากแสงแดด และเก็บในอุณหภูมิห้องปกติ ควรเลือกขนาดภาชนะให้เหมาะกับปริมาณกาแฟ เพื่อขจัดช่องว่างของอากาศให้น้อยที่สุด ควรซื้อกาแฟให้พอใช้ของแต่ละรอบ เพื่อให้ได้กาแฟที่ใหม่ สดเสมอ ควรล้างและเก็บรักษาอุปกรณ์การชงกาแฟ ให้สะอาดทั้งก่อนใช้และหลังใช้อยู่เสมอ การจะทำให้กาแฟสดมีรสชาดดีต้องเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟที่ดีๆเป็นที่นิยมของคนทั่วไป ขั้นตอนต่อไปก็คือการคั่วเมล็ดกาแฟ ซึ่งเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ รสชาดของกาแฟสดจะดีไม่ดีก็อยู่ที่จุดนี้ด้วยส่วนหนึ่ง
การคั่วเมล็ดกาแฟมี 3 ระดับด้วยกันดังนี้
1. การคั่วกาแฟอ่อน จะใช้อุณหภูมิประมาณ 200-210 องศาเซลเซียส
2. กาแฟคั่วปานกลาง จะใช้อุณหภูมิประมาณ 210-220 องศาเซลเซียส
3. กาแฟคั่วเข้ม จะใช้อุณหภูมิประมาณ 220-240 องศาเซลเซียส

การใช้เวลาคั่วที่เหมาะสมก็มีส่วนทำให้กาแฟสดที่ออกมามีรสชาดดีการเก็บกาแฟสดที่ผ่านการคั่วแล้ว ควรเก็บให้มิดชิด เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท ไม่ให้มีอากาศและความชื้นเข้าได้ ซึ่งจะมีส่วนทำให้กาแฟสดมีรสชาดดีเช่นกันการชงกาแฟสด ควรใช้ผงกาแฟที่ผ่านการคั่วและบดใหม่ๆในทุกๆครั้งไป ปริมาณผงกาแฟสดที่ชงต่อถ้วยประมาณ 8-10 กรัม ภาชนะที่ใช้ชงต้องสะอาดปราศจากกลิ่น ฝุ่น ผงใดๆ ห้ามนำกาแฟสดที่ผ่านการชงมาแล้วกลับมาชงใหม่เป็นเด็ดขาด สำหรับอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับชงกาแฟสดให้มีรสชาดดีจะอยู่ที่ 94 องศาเซลเซียส

เวลาทำกาแฟร้อน อย่าลืมลวกแก้วเซรามิคให้ร้อนก่อน ไม่เช่นนั้นกาแฟจะสูญเสียความร้อนไปกับถ้วยที่เย็น โดยเฉพาะในห้องแอร์ ทำให้กาแฟเย็นเร็ว การสังเกตอุณหภูมิ ให้ดูที่ไฟสีเขียวที่ติดที่หน้าเครื่อง ไฟจะติดในขณะที่ต้มน้ำ เมื่อได้อุณหภูมิที่94-100 เทอร์โมสแตทก็จะตัด ไฟสีเขียวก็จะดับ แสดงสถานะพร้อมใช้ ให้ชงในขณะน้ำร้อนๆ จะได้รสชาดกาแฟดี



เทคนิคการชงกาแฟให้อร่อย



  • ใช้กาแฟคั่วบดที่ใหม่สดเสมอ จะมีรสชาดดี ให้ความหอมกรุ่น และรสชาดนุ่มนวล

  • บดกาแฟให้ได้เกล็ดเหมาะกับอุปกรณ์กาแฟที่ใช้ (หยาบ ปานกลาง ละเอียด ผง)

  • ใช้ปริมาณกาแฟให้เพียงพอต่อการชง 1 ถ้วย ปกติกาแฟ 1 ถ้วย ใช้กาแฟคั่วบด 8-10 กรัม แต่ถ้าชงกาแฟ ในน้ำที่กระด้างมาก หรือชงกาแฟที่ใส่นมควรเพิ่มกาแฟคั่วบดให้มากขึ้นเล็กน้อย

  • ใช้น้ำสะอาด ปราศจาก ตะกอน สี กลิ่น รส

  • น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิเหมาะสมในการชงกาแฟ คือ อุณหภูมิ 94 องศาเซลเซียส หรือน้ำร้อนหลังจากที่เดือดและปล่อยทิ้งไว้สักครู่ ไม่ควรใช้น้ำร้อนที่เดือดจัดชงกาแฟ เพราะจะทำให้ผงกาแฟไหม้ หรือถูกลวกอย่างแรง ทำให้น้ำกาแฟที่ได้จะมีรสขมเข้ม

  • กรณีที่อากาศเย็น ควรลวกถ้วยกาแฟให้ร้อนก่อนเทน้ำกาแฟลงไปในถ้วนกาแฟ

  • ดื่มกาแฟที่ชงเสร็จใหม่ ๆหรือที่กำลังร้อนๆอยู่ จะได้ความหอมกรุ่นและรสชาดดี

  • ไม่ควรนำผงกาแฟที่ใช้แล้วมาชงซ้ำอีก

www.coffeemade.com

Saturday, May 16, 2009

มุมกาแฟ...


ประวัติกาแฟในประเทศไทย



กาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกชนิดหนึ่ง เกษตรกรชาวไทยปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจทั้งภาคเหนือและภาคใต้ โดยภาคเหนือปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้า (Arabica) และภาคใต้ปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า (Robusta)


ประวัติกาแฟพันธุ์อราบิก้าในประเทศไทย ตามบันทึกของพระสารศาสตร์พลขันธุ์ (นายเจริณี ชาวอิตาเลียน) ในปี พ.ศ. 2454 ได้ระบุว่า กาแฟเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา และได้มีการทดลองปลูกกาแฟอราบิก้าในฐานะพืชเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2393 โดยครั้งแรกได้นำไปปลูกไว้ที่จังหวัดจันทบุรี จึงมีชื่อเรียกว่า กาแฟจันทบูร ส่วนกาแฟพันธุ์โรบัสต้า คนไทยคนแรกที่นำมาปลูกในภาคใต้ของไทย ชื่อ นายคิหมุน นำมาปลูกเมื่อปี พ.ศ. 2447 ที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และมีการแพร่หลายในฐานะพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยมีแหล่งปลูกสำคัญร้อยละ 90 อยู่ทางภาคใต้ ที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกทางภาคใต้ คือ พันธุ์โรบัสต้า ในขณะที่ทางภาคเหนือแหล่งปลูกสำคัญอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน โดยนิยมปลูกพันธุ์อราบิก้า


ในปี พ.ศ. 2500 นายสมบูรณ์ ณ ถลาง อดีตผู้อำนวยการกองการยาง กรมกสิกรรม (กรมวิชาการเกษตรในปัจจุบัน) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำเมล็ดกาแฟอราบิก้าจำนวน 4 สายพันธุ์ คือ ทิปิก้า (Typica), เบอร์บอน (Bourbon), แคททูรา (Caturra) และมุนดู นูวู (Mundo Novo) จากประเทศบราซิลมายังประเทศไทย โดยปลูกไว้ที่สถานีทดลองพืชสวนมูเซอ จ.ตาก สถานีทดลองพืชไร่แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และสถานีทดลองพืชสวนฝาง จ.เชียงใหม่ เมล็ดกาแฟจากสถานทดลองทั้งสามแห่งนี้ได้แพร่กระจายไปสู่เกษตรกรชาวไทยภูเขาและพื้นราบ ซึ่งปลูกกันอย่างแพร่หลาย ต่อมาต้นกาแฟอราบิก้าเหล่านี้ได้เกิดเป็นโรคราสนิม สาเหตุจาก เชื้อรา Hem ileia vastatrix ทำให้ต้นโทรม ผลผลิตต่ำมาก จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2516 นักวิชาการโรคพืชจากกองวิจัยโรคพืช กรมวิชาการเกษตรได้ทำการสำรวจการแพร่ระบาดและความรุนแรงของโรคที่เกิดขึ้นกับกาแฟโรบัสต้าและกาแฟอราบิก้าในภาคใต้และภาคเหนือของประเทศ พบว่า กาแฟโรบัสต้าในภาคใต้ได้รับความเสียหายจากโรคราสนิมน้อยมาก เกิดขึ้นเฉพาะกาแฟอราบิก้าในภาคเหนือที่ปลูกบนภูเขาของจังหวัดตาก เชียงใหม่ เชียงราย (อ.แม่สาย) ลำปาง และน่าน ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งสายพันธุ์ ทิปิก้า เบอร์บอน และแคททูรา ทำให้เกษตรกรหยุดการดูแล เพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องโรคราสนิมได้ จึงต้องปล่อยให้สวนกาแฟรกร้างและเลิกปลูกกันเป็นส่วนมาก


ในปี พ.ศ. 2517 โครงการหลวงพัฒนาชาวเขา ได้มีดำริที่จะทำการวิจัยและพัฒนาการปลูกกาแฟอราบิก้าบนพื้นที่สูง เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวไทยภูเขาในภาคเหนือ ภายใต้ความช่วยเหลือของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA)ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรดำเนินการ โดยโครงการหลวงพัฒนาชาวเขาได้รับเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบิก้าลูกผสมรุ่นที่ 2 ที่ศูนย์วิจัยโรคราสนิมของโปรตุเกส (Coffee Rust Research Center, Oeiras, Portugal) ได้ผสมขึ้นมาเพื่อความต้านทานต่อโรคราสนิม โดยใช้พันธุกรรมที่สามารถต้านทานต่อโรคราสนิมของกาแฟอราบิก้า Hibride de Timor มาผสมกับกาแฟอราบิก้าที่มีพันธุกรรมต้นเตี้ย ผลผลิตสูง และกาแฟอราบิก้าที่มีรสชาติดี ลูกผสมรุ่นที่ 2 ทั้ง 26 คู่ผสมนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่เป็น Hibrido de Timor derivative และกลุ่มอราบิก้าแท้ (True Arabica) โดยนำกาแฟอราบิก้าที่เพิ่งสำรวจพบ และเก็บเมล็ดมาในช่วงศตวรรษที่ 19 จากเอธิโอเปีย เช่น S.12 Kaffa, S.4 Agaro, S.6 Cioiccie Dilla Alghe เป็นต้น มาผสมกับกาแฟอราบิก้าสายพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า เช่น แคททูรา คาทุยอิ ในปัจจุบันกาแฟอราบิก้าลูกผสมเหล่านี้ (หลายสายพันธุ์) ได้ผ่านการทดสอบกับเชื้อราที่เป็นสาเหตุของโรคราสนิมแล้ว จึงได้คัดเลือกต้น บันทึกผลผลิตและพัฒนามาจนถึงรุ่นที่ 4 รุ่นที่ 5 รุ่นที่ 6 ของแต่ละสายพันธุ์ ปัจจุบันได้แพร่กระจายไปตามแหล่งปลูกต่าง ๆ บนภูเขาในภาคเหนือ เช่น มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ดอยช้าง จ.เชียงราย บนพื้นที่สูงของจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก น่าน เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก ตามลำดับ


ในช่วงเวลาเดียวกัน ในปี พ.ศ. 2517 กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกาได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบิก้าพันธุ์อื่นๆ มาให้โครงการหลวงพัฒนาชาวเขาอีกชุดหนึ่ง เช่น S.288, S.353 และ S.795 ซึ่งได้ผสมและพัฒนาพันธุ์จนกระทั่งมีความคงที่และไม่ผันแปรในความต้านทานต่อโรคราสนิม และเรื่องผลผลิต มาจากประเทศอินเดีย และกาแฟอราบิก้าสายพันธุ์ K.7 มาจากประเทศเคนย่า



ในปี พ.ศ. 2526 นักวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร ได้เดินทางไปร่วมประชุมเรื่องโรคราสนิมของกาแฟ และศึกษาดูงานที่ศูนย์วิจัยโรคราสนิมของกาแฟที่ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดินทางกลับประเทศ ได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบิก้า คาติมอร์ (Coffee Arabica cv. Catimor) 2 เบอร์ กลับมาด้วย คือ คาติมอร์ CIFC 7962 และ คาติมอร์ CIFC 7963 หลังจากได้เพาะเมล็ดและทดสอบกล้าพันธุ์ กันเชื้อรา H. vastatric Race II ในห้องปฎิบัติการแล้ว กล้าพันธุ์เหล่านี้ได้ถูกส่งไปปลูกเพื่อทดสอบผลผลิต และความต้านทานต่อโรคราสนิมในสภาพธรรมชาติ ที่สถานีทดลองเกษตรหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่ สถานีเกษตรที่สูงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิก้า โครงการหลวงแม่หลอด จ.เชียงใหม่


ต่อมาในปี พ.ศ. 2527 และปี พ.ศ. 2530 กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร ได้รับเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบิก้า คาติมอร์ อีก 3 เบอร์ คือ คาติมอร์ CIFC 7958, คาติมอร์ CIFC 7960 และ คาติมอร์ CIFC 7961 จากศูนย์วิจัยโรคราสนิมของโปรตุเกส กล้าพันธุ์เหล่านี้ได้ถูกส่งไปปลูกที่สถานีเกษตรที่สูงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง สถานีทดลองเกษตรที่สูง จ.เชียงราย และ ศูนย์วิจัยและพัฒนากาแฟอราบิก้า มูลนิธิโครงการหลวง แม่หลอด จ.เชียงใหม่


ในปี พ.ศ. 2531 กองโรคพืชและจุลชีววิทยา กรมวิชาการเกษตร ได้รับเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบิก้าลูกผสมรุ่นที่ 2 ระหว่าง คาติมอร์ คาทุยอิ จำนวน 8 ชุด จากศูนย์วิจัยโรคราสนิมของโปรตุเกส กล้าพันธุ์ที่ได้หลังจากการทดสอบกับเชื้อรา H. vastatrix Race II แล้ว ได้ถูกส่งไปปลูกที่ศูนย์วิจัยและพัฒนากาแฟอราบิก้า โครงการหลวงแม่หลอด จ.เชียงใหม่ สถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ภูขัด ภูเมี่ยง และภูสอยดาว จ.พิษณุโลก


สรุปได้ว่า กาแฟอราบิก้าสายพันธุ์ต่างๆ ได้แพร่กระจายไปตามแหล่งเพาะปลูกต่างๆ บนที่สูงในพื้นที่ของ มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง จ.เชียงราย ส่วนเมล็ดพันธุ์จากสถานีของสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ได้ถูกส่งไปยัง สถานีทดลองเกษตรหลวงขุนวาง จ.เชียงใหม่ สถานีทดลองเกษตรที่สูงวารี จ.เชียงราย สถานีทดลองพืชสวน มูเซอ จ.ตาก สถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และโครงการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ภูขัด ภูเมี่ยง และภูสอยดาว จ.พิษณุโลก และได้แจกจ่ายไปสู่เกษตรกร และชาวไทยภูเขาได้ปลูกกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ที่มาของบทความ http://www.purichawon.com/_histofcofet/hiscofet.asp
ตำนานการเกิดกาแฟมีหลายเรื่อง เรื่องที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปคือเรื่องนายกัลดี (Kaldi) ชาว อบิซีเนีย คนเลี้ยงแพะ ปกติจะต้อนฝูงแพะออกไปหากินอาหารตามทุ่งหญ้าเนินเขาต่างๆ ริมฝั่งทะเลแดง วันหนึ่งสังเกตเห็นความผิดปกติของฝูงแพะมีความคึกคักขึ้นหลังจากกินอาหารบริเวณเนินเขา คัลดี จึงตามฝูงแพะขึ้นไปพบว่าแพะเหล่านั้นกินผลไม้สุกสีแดง ทำให้พวกแพะคึกคัก กระโดดโลดเต้นอย่างคึกคะนอง คัลดีจึงลองทดสอบกินผลไม้นี้พบว่ามีความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา กัลดีจึงนำผลไม้นี้ไปอวดกับพระนักบวชในหมู่บ้าน พระนักบวชจึงไปสังเกตดูต้นไม้และนำผลไม้นี้กลับมาทดลองคั่วและต้มชง ดื่มทดลองพบว่าสามารถสร้างความกระปรี้กระเปร่าทำให้สวดมนต์ได้อย่างยาวนานในตอนกลางคืนโดยไม่มีอาการง่วงนอน

อีกตำนานหนึ่งเป็นเรื่องของ อาลี บิน โอมา (Ali Bin Omar) ที่ได้กระทำผิดประเพณีกับ เจ้าหญิงและได้ถูกเนรเทศไปอยู่ที่บริเวณภูเขาในประเทศเยเมน ที่นั่นโอมาได้ค้นพบต้นไม้ที่มีดอกสีขาว สามารถต้มเมล็ดแล้วดื่ม ได้อย่างมีความสุข เมื่อเขาเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ได้นำเมล็ดต้นไม้นี้ไปด้วย และที่เมกกะโอมาได้ช่วยรักษาโรคหิด โรคผิวหนังของนักแสวงบุญหลายคน ด้วยเหตุนี้เมื่อเขาเดินทางกลับจึงได้รับการขนานนามให้เป็นเทวดาผู้ให้การอุปถัมถ์ต่อผู้ปลูกกาแฟ เจ้าของร้านกาแฟ และผู้ดื่มกาแฟ

ประวัติกาแฟโลก

กาแฟถูกค้นพบประมาณ ค . ศ .850 ปี ก่อนคริสศักราช ชาวแอฟริกาพื้นเมืองใช้กาแฟเป็นอาหารมานานแล้ว สันนิฐานว่ามนุษย์สมัยโบราณ อาจเรียนรู้จากการสังเกตสัตว์ว่ากินอะไรและทดลองกินพบว่า ผลกาแฟสุกมีรสหวานเป็นที่ชื่นชอบของนกและสัตว์ต่างๆ ในช่วงแรกๆ รับประทานผลสุก ต่อมานำผลสุกมาทำไวน์ เรียกว่า ควาฮ์วาฮ์ (qahwah) เมื่อลองเคี้ยวเมล็ดกาแฟ จะเกิดมีความรู้สึกว่าสบายหายเหน็ดเหนื่อยจากอากาศร้อนหรือการเดินทางไกล เพราะกาแฟมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นร่างกาย ทำให้กาแฟได้เริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ต่อมามีการพัฒนานำเมล็ดกาแฟมาป่นผสมไขมันสัตว์ปั้นเป็นก้อนไว้กินเป็นอาหารติดตัวในการเดินทางชาวพื้นเมืองบางเผ่าในแอฟริกา ใช้กาแฟเซ่นไหว้พระเจ้า และผีสางที่นับถือ ในพิธีฉลองสาบานพี่น้องร่วมสายโลหิต มีการแกะเมล็ดกาแฟจากผลกาแฟสองเมล็ดแบ่งให้พี่น้องคนละหนึ่งเมล็ด เพื่อนำไปจุ่มหรือทาด้วยโลหิตของตนและมอบให้พี่น้องแต่ละคนไปเคี้ยวรับประทาน กาแฟเป็นของขวัญที่มอบให้แก่แขกที่มาเยี่ยมเคี้ยวก่อนที่จะเลี้ยงอาหารเป็นต้น ต่อมากาแฟจึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มในระยะแรกใช้เมล็ดกาแฟใส่ในน้ำต้มบนกองไฟ จนน้ำกาแฟออกเป็นสีเหลืองกาแฟได้มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ มีการตากเมล็ดกาแฟเพื่อให้เก็บไว้ได้นานขึ้น มีการคั่วบด แช่ ต้ม กาแฟ โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ครกบด กระทะ เครื่องต้ม กาแฟ ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกยิ่งขึ้น

ในราว ค . ศ .1000 การค้าทาสกำลังเฟื่องฟู พ่อค้าทาสนำทาสนิโกรจากทางใต้ของซูดาน ไปประเทศซาอุดิอาระเบีย พ่อค้าทาสและพวกทาสได้นำผลและเมล็ดกาแฟติดตัวไปด้วย การปลูกกาแฟของชาวอาหรับถูกเก็บเป็นความลับและเมล็ดกาแฟเป็นสิ่งหวงห้าม เมล็ดการแฟดิบนำออกนอกประเทศ ยกเว้นต้องต้มหรือลวกในน้ำร้อน แต่เมล็ดกาแฟยังถูกลักลอบนำออกไปแพร่กระจายจากเมกกะโดยผู้แสวงบุญที่กลับจากเมกกะไปยังประเทศมุสลิมของตนเองทั่วโลกราวศตวรรษที่ 9 กาแฟเป็นพืชที่รู้จักกันดีในแถบตะวันออกกลาง จนถึงต้นศตวรรษที่ 14 ชาวอาหรับเริ่มการปลูกกาแฟเป็นการค้า บริเวณคาบสมุทรอาระเบียใกล้เมืองท่ามอคค่า (Mocha) ต่อมากาแฟแถบนี้กลายเป็นสายพันธุ์กาแฟที่มีชื่อเสียง ศตวรรษที่ 15 กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศตะวันออกกลางและดินแดนอาหรับ จากอียิปต์ เมกกะและซีเรียแล้วเข้าสู่เมืองคอนสแตนติโนเบล ประเทศตุรกี ในสมัยออตโนมัน ราวปี ค . ศ .1453 ในช่วงแรก ชาวเติร์กดื่มกาแฟที่บ้านและใช้ต้อนรับอาคันตุกะผู้มาเยี่ยมเยียนจนในปี ค . ศ .1554 ร้านกาแฟร้านแรกในโลกเกิดขึ้นที่นครคอนสแตนติโนเปิล ปัจจุบันคือเมืองอิสตันบูล โดยชาวซีเรีย 2 คน มีการเสริฟกาแฟในร้านที่มีโซฟาที่สวยงามสะดวกสบาย เป็นแหล่งที่พบปะพูดคุยของคนทั้งกวี นักนิยมศิลปและวรรณกรรมนักวิทยาศาสตร์ นักการเมือง ฯลฯ ร้านกาแฟได้รับความนิยม มีการขยายร้านกาแฟมากขึ้น จนถือได้ว่าเป็นร้านกาแฟต้นแบบในเมืองต่างๆ ของยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 17-18 จนถึงปัจจุบัน

Hello ...