Wednesday, July 10, 2013

เปิดร้านกาแฟอย่างไรไม่ขาดทุน??? 2

ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะนำประสบการณ์ดังกล่าวมาปรับใช้กับลูกค้าที่มีฝันว่า อยากจะเปิดร้านกาแฟสักร้าน ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ต้องการที่จะ หาอาชีพเสริมและก็มีจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจจะเปิดร้านกาแฟด้วยเงินที่เก็บมาตลอด ชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้างประจำ ซึ่งผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ


1.เลือกคู่ค้า ที่มีประสบการณ์มีความรู้จริงในธุรกิจกาแฟสด การเลือก คู่ค้า-คู่คิดิ ที่มีประสบการณ์และมีแบรนด์เนมที่เชื่อถือได้ เขาจะสนับสนุนให้คุณ ค้าขายเป็นและสามารถซัพพอร์ตในเรื่องหัวใจของธุรกิจนั่นคือ เขาจะเทรนให้คุณเก่งขึ้น สอนคุณทำเมนูเครื่องดื่มกาแฟได้หลากหลายขึ้น หากอุปกรณ์เครื่องชง เสียก็สามารถมาบริการคุณได้รวดเร็ว เพราะเขาก็หวงแบรนด์เขายังไงเข
าก็ต้องดูแลคุณ เพราะมีผลต่อชื่อเสียงของแบรนด์ คุณจะได้เรียนรู้การทำธุรกิจที่ถูกต้อง หากคุณเลือกคู่ค้าใช่ (เหมือนการเลือกคู่แต่งงานยังไงอย่างนั้นเลย)

2.เลือกขนาดธุรกิจ ที่เหมาะกับเงินในกระเป๋าของคุณ คู่ค้าที่ดีเขาจะจัดขนาดธุรกิจให้เหมาะกับเงินลงทุนของคุณ ผมจะแนะนำให้ผู้สนใจทำในขนาดที่ไม่ต้องลงทุนมากก่อน เพื่อให้มีโอกาสดูแนวโน้มการขายและดูว่าจริงๆ แล้วคุณ ชอบทำธุรกิจนี้หรือไม่ เพราะเริ่มจากเล็กแล้วขยายให้ใหญ่ได้ บางคนใจร้อนมาถึงทุ่มสุดตัวเห็นเจ๊งไปก็หลายราย เงินทั้งก้อนที่เก็บมากว่า10 ปี ก็มลายหายไป ทันที คู่ค้าที่มีประสบการณ์จะทำให้คุณเสี่ยงน้อยที่สุด และเขาสามารถติดต่อสถาบันการเงินให้คุณสามารถผ่อนจ่ายเพื่อให้บรรเทาการใช้เงินก้อนและคุณสามารถ มีเงินทุนหมุนเวียนได้มากขึ้น จะทำให้คุณมีกำลังใจในการประกอบธุรกิจมากขึ้น

3.พิจารณาทำเล ในการค้าขายและค่าเช่าที่ หัวใจสำคัญของการค้าปลีกมีอยู่ 3 ข้อ 1.ทำเล 2.ทำเล และ 3.ทำเล เลือกถูกทำเลโอกาสสำเร็จมีสูงมาก ก่อนจะเปิดร้านกาแฟคุณต้องดูว่าทำเลที่มองไว้เป็นอย่างไร เป็นแหล่งชุมชนที่คน พลุกพล่านหรือไม่ พฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างไร และมีคู่แข่งที่เป็นร้านกาแฟ
สดอยู่ก่อนแล้วกี่ราย จากนั้นก็มาดูกันอีกทีเรื่องค่าเช่าที่-ค่าไฟ ว่าค่าใช้จ่าย เหมาะสมกับขนาดธุรกิจของเราหรือไม่ เพราะมันเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่เราต้องจ่ายทุกเดือนครับ เรื่องแบบนี้หมอดูสำนักไหนก็ช่วยคุณไม่ได้ แต่หากคุณเลือกคู่ค้าถูกตั้งแต่ข้อ1 เขาจะสามารถวิเคราะห์และช่วยหาทำเลที่ดีให้คุณได้

4.วิธีการบริหารค่าใช้จ่ายรายวัน/รายเดือน มีลูกค้าหลายรายที่สนใจอยาก ทำธุรกิจกาแฟ แต่ตัวเองไม่มีเวลามาขายเองจะต้องจ้างคนมาขายหน้าร้านแทน เรื่องนี้สำคัญครับ เพราะการจ้างคนมาขายของแทนเรา นอกจากจะเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่ต้องจ่ายทุกเดือนแล้ว คุณจะสามารถไว้ใจเค้าได้มากน้อยแค่ไหน เกิดในกรณีที่พนักงานเค้าโกงคุณด้วยการนำวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ เช่น นมข้น นมสด แก้ว หลอดไปขาย คุณจะรู้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นควรพิจารณาให้ดีครับ หากไม่มีเวลาที่จะขายเองจริงๆ ก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้มาดูแลแทนและวางระบบการจัดการให้ดี ต้องมีวิธีการตรวจสอบและบริหารค่าใช้จ่ายทั้งเรื่องพนักงาน การaudit สต็อกเพื่อตรวจสอบเรื่องยอดขายกับวัตถุดิบด้วย เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลครับ

จะเห็นว่าหากเลือกถูกตั้งแต่ข้อที่หนึ่งคือเลือกคู่ค้าที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้ ก็จะสามารถช่วยทำให้คุณมีความสบายใจในการประกอบการได้อย่างมีความกังวลน้อยที่สุด เพราะลดความเสี่ยงคุณไปได้เยอะ

แต่จำไว้ว่าตัวคุณเองสำคัญที่สุด หากมั่นใจก็ลุยเลยครับผมเอาใจช่วย!!! แล้วคุณจะได้ประสบการณ์ จากการเรียนรู้ข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องในแต่ ละวันที่คุณเปิดร้าน ในขณะเดียวกันคุณก็จะได้เรียนรู้การแก้ไข และการพัฒนาศักยภาพในการเป็นเถ้าแก่ควบคู่กันไปด้วย แต่อย่าลืมนะครับจะเปิดร้านขายกาแฟ ก็ต้องรักงานบริการลูกค้าและชื่นชอบการดื่มกาแฟด้วยเช่นกันนะครับ!!!

เพราะผมเชื่อเสมอว่า คนที่สนใจและชื่นชอบสิ่งไหนมักจะทำสิ่งนั้นได้ดีกว่า คนที่ไม่มีใจรัก ดังนั้น ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้จะต้องมีใจรักที่จะทำ จึงจะ สามารถทนกับปัญหาที่เกิดขึ้นและมองเห็นช่องทางแก้ไขได้เสมอ

เปิดร้านกาแฟอย่างไรไม่ขาดทุน??? 1

การทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง แต่จะทำอย่างไรให้ความเสี่ยงนั้นน้อยที่สุด มีหลายคนที่คิดจะทำธุรกิจส่วนตัวหรืออยากเป็นเจ้าของกิจการ แต่ขาดประสบการณ์ ไม่มีคนให้คำปรึกษา เงินทุนน้อยหรือไม่ก็กลัวขาดทุน พูดง่ายๆ ก็คือกลัวเจ๊งนั่นเองครับ!!!
การทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง แต่จะทำอย่างไรให้ความเสี่ยงนั้นน้อยที่สุด มีหลายคนที่คิดจะทำธุรกิจส่วนตัวหรืออยากเป็นเจ้าของกิจการ แต่ขาดประสบการณ์ ไม่มีคนให้คำปรึกษา เงินทุนน้อยหรือไม่ก็กลัวขาดทุน พูดง่ายๆ ก็คือกลัวเจ๊งนั่นเองครับ!!!
สำหรับผม หากมีใครมาถามว่าจะทำธุรกิจอะไรในยามที่ราคาน้ำมันเริ่มกลับ มาพุ่งสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าราคาสินค้าอาหารก็จะขยับตัวเพิ่มขึ้นตามมาเป็นลูกระนาดแบบนี้ ผมก็อยากจะแนะนำให้ลองหันมามองธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสด ดูครับ
ผมอยู่กับธุรกิจกาแฟมาตั้งแต่เกิดเพราะเป็นธุรกิจของครอบครัววงศ์วารีิ มานานถึง 52 ปีแล้วครับ หากมองย้อนกลับไปที่อโรม่า กรุ๊ป เริ่มรุกตลาดแฟรนไชส์ร้านกาแฟสดเมื่อ 10 ปีก่อน โดยเริ่มจากแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่ิ ไล่มาจนเป็นแบรนด์ที่จับลูกค้าระดับกลางถึงระดับล่างอย่าง ็ชาวดอยิ และ ็โอเค เอสเปรสโซ่ิ
ปัจจุบันทั้ง 3 แบรนด์นี้มีสาขารวมกันถึงเกือบ 400 สาขา ซึ่งผมตั้งเป้าว่า ในปีนี้จะขยายสาขาของชาวดอยและโอเค เอสเปรสโซ่ ให้ได้อีกอย่างละ 100 สาขา เพราะแนวโน้มธุรกิจการเปิดร้านกาแฟสด ที่เป็นร้านระดับแมสที่มีราคาขายแก้วละ 30-35 บาท ได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านระดับพรีเมี่ยมที่มีขนาดใหญ่ มีอยู่ด้วยกัน 35 สาขา ปีนี้คาดว่าจะขยายให้ได้อีก 20 สาขา
จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าปัจจุบันคนไทยยังดื่มกาแฟน้อยมาก แค่ประมาณครึ่งกิโลกรัม/คน/ปี หรือประมาณ 130-150 แก้ว/คน/ปี (เฉลี่ยไม่ถึง หนึ่งแก้ว/คน/วัน) ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น ดื่มกาแฟเฉลี่ย 500 แก้ว/คน/ปี หรืออเมริกาที่ดื่มกาแฟเฉลี่ย 700 แก้ว/คน/ปี (หรือเฉลี่ย 2 แก้ว/คน/วัน)
สรุปว่า ธุรกิจกาแฟสดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก พูดง่ายๆ คือเป็นธุรกิจ ที่มีอนาคตนั่นเองครับ ร้านกาแฟสดโดยเฉลี่ยจะมีรายได้อยู่ประมาณวันละ 3,000-6,000 บาท และมีกำไรประมาณวันละ 1,000-2,000 บาท โดยกาแฟแก้วละ 30 บาท มีกำไร เฉลี่ย 65-70% ต่อแก้ว ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยนะครับ หากคุณบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย ได้ดี โดยเฉพาะเรื่องค่าเช่าที่หรือการจ้างลูกจ้างประจำร้านเพราะมันเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่คุณต้องจ่ายทุกเดือน
หากคุณลงทุนเปิดร้านด้วยเงินทุน 40,000-50,000 บาท แล้วขายได้วันละ 50 แก้ว เพียงแค่ 6เดือนคุณก็คืนทุนแล้ว แต่หากคุณขายได้วันละ 50-100 แก้ว ใช้เวลาแค่ 3 เดือนก็คืนทุน!!!
เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่าการทำธุรกิจร้านกาแฟสดทำไม่ยาก แต่ผมบอกได้เลยครับว่าถ้าจะทำให้ดีให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
เพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ อโรม่า กรุ๊ป ก็ต้องใช้ความพยายามมากครับในการ ลองถูกลองผิด มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว มีทั้งสาขาที่เปิดเพิ่ม และสาขาที่ปิดตัวลงไป !!!
ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะนำประสบการณ์ดังกล่าวมาปรับใช้กับลูกค้าที่มีฝันว่า อยากจะเปิดร้านกาแฟสักร้าน ซึ่งก็มีทั้งผู้ที่ทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ต้องการที่จะ หาอาชีพเสริมและก็มีจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจจะเปิดร้านกาแฟด้วยเงินที่เก็บมาตลอด ชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้างประจำ ซึ่งผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1.เลือกคู่ค้า ที่มีประสบการณ์มีความรู้จริงในธุรกิจกาแฟสด การเลือก คู่ค้า-คู่คิดิ ที่มีประสบการณ์และมีแบรนด์เนมที่เชื่อถือได้ เขาจะสนับสนุนให้คุณ ค้าขายเป็นและสามารถซัพพอร์ตในเรื่องหัวใจของธุรกิจนั่นคือ เขาจะเทรนให้คุณเก่งขึ้น สอนคุณทำเมนูเครื่องดื่มกาแฟได้หลากหลายขึ้น หากอุปกรณ์เครื่องชง เสียก็สามารถมาบริการคุณได้รวดเร็ว เพราะเขาก็หวงแบรนด์เขายังไงเขาก็ต้องดูแลคุณ เพราะมีผลต่อชื่อเสียงของแบรนด์ คุณจะได้เรียนรู้การทำธุรกิจที่ถูกต้อง หากคุณเลือกคู่ค้าใช่ (เหมือนการเลือกคู่แต่งงานยังไงอย่างนั้นเลย)
2.เลือกขนาดธุรกิจ ที่เหมาะกับเงินในกระเป๋าของคุณ คู่ค้าที่ดีเขาจะจัดขนาดธุรกิจให้เหมาะกับเงินลงทุนของคุณ ผมจะแนะนำให้ผู้สนใจทำในขนาดที่ไม่ต้องลงทุนมากก่อน เพื่อให้มีโอกาสดูแนวโน้มการขายและดูว่าจริงๆ แล้วคุณ ชอบทำธุรกิจนี้หรือไม่ เพราะเริ่มจากเล็กแล้วขยายให้ใหญ่ได้ บางคนใจร้อนมาถึงทุ่มสุดตัวเห็นเจ๊งไปก็หลายราย เงินทั้งก้อนที่เก็บมากว่า10 ปี ก็มลายหายไป ทันที คู่ค้าที่มีประสบการณ์จะทำให้คุณเสี่ยงน้อยที่สุด และเขาสามารถติดต่อสถาบันการเงินให้คุณสามารถผ่อนจ่ายเพื่อให้บรรเทาการใช้เงินก้อนและคุณสามารถ มีเงินทุนหมุนเวียนได้มากขึ้น จะทำให้คุณมีกำลังใจในการประกอบธุรกิจมากขึ้น
3.พิจารณาทำเล ในการค้าขายและค่าเช่าที่ หัวใจสำคัญของการค้าปลีกมีอยู่ 3 ข้อ 1.ทำเล 2.ทำเล และ 3.ทำเล เลือกถูกทำเลโอกาสสำเร็จมีสูงมาก ก่อนจะเปิดร้านกาแฟคุณต้องดูว่าทำเลที่มองไว้เป็นอย่างไร เป็นแหล่งชุมชนที่คน พลุกพล่านหรือไม่ พฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างไร และมีคู่แข่งที่เป็นร้านกาแฟสดอยู่ก่อนแล้วกี่ราย จากนั้นก็มาดูกันอีกทีเรื่องค่าเช่าที่-ค่าไฟ ว่าค่าใช้จ่าย เหมาะสมกับขนาดธุรกิจของเราหรือไม่ เพราะมันเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่เราต้องจ่ายทุกเดือนครับ เรื่องแบบนี้หมอดูสำนักไหนก็ช่วยคุณไม่ได้ แต่หากคุณเลือกคู่ค้าถูกตั้งแต่ข้อ1 เขาจะสามารถวิเคราะห์และช่วยหาทำเลที่ดีให้คุณได้
4.วิธีการบริหารค่าใช้จ่ายรายวัน/รายเดือน มีลูกค้าหลายรายที่สนใจอยาก ทำธุรกิจกาแฟ แต่ตัวเองไม่มีเวลามาขายเองจะต้องจ้างคนมาขายหน้าร้านแทน เรื่องนี้สำคัญครับ เพราะการจ้างคนมาขายของแทนเรา นอกจากจะเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่ต้องจ่ายทุกเดือนแล้ว คุณจะสามารถไว้ใจเค้าได้มากน้อยแค่ไหน เกิดในกรณีที่พนักงานเค้าโกงคุณด้วยการนำวัตถุดิบหรืออุปกรณ์ เช่น นมข้น นมสด แก้ว หลอดไปขาย คุณจะรู้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้นควรพิจารณาให้ดีครับ หากไม่มีเวลาที่จะขายเองจริงๆ ก็ควรหาคนที่ไว้ใจได้มาดูแลแทนและวางระบบการจัดการให้ดี ต้องมีวิธีการตรวจสอบและบริหารค่าใช้จ่ายทั้งเรื่องพนักงาน การaudit สต็อกเพื่อตรวจสอบเรื่องยอดขายกับวัตถุดิบด้วย เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลครับ
จะเห็นว่าหากเลือกถูกตั้งแต่ข้อที่หนึ่งคือเลือกคู่ค้าที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้ ก็จะสามารถช่วยทำให้คุณมีความสบายใจในการประกอบการได้อย่างมีความกังวลน้อยที่สุด เพราะลดความเสี่ยงคุณไปได้เยอะ
แต่จำไว้ว่าตัวคุณเองสำคัญที่สุด หากมั่นใจก็ลุยเลยครับผมเอาใจช่วย!!! แล้วคุณจะได้ประสบการณ์ จากการเรียนรู้ข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องในแต่ ละวันที่คุณเปิดร้าน ในขณะเดียวกันคุณก็จะได้เรียนรู้การแก้ไข และการพัฒนาศักยภาพในการเป็นเถ้าแก่ควบคู่กันไปด้วย แต่อย่าลืมนะครับจะเปิดร้านขายกาแฟ ก็ต้องรักงานบริการลูกค้าและชื่นชอบการดื่มกาแฟด้วยเช่นกันนะครับ!!!
เพราะผมเชื่อเสมอว่า คนที่สนใจและชื่นชอบสิ่งไหนมักจะทำสิ่งนั้นได้ดีกว่า คนที่ไม่มีใจรัก ดังนั้น ผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้จะต้องมีใจรักที่จะทำ จึงจะ สามารถทนกับปัญหาที่เกิดขึ้นและมองเห็นช่องทางแก้ไขได้เสมอ
สำหรับผม หากมีใครมาถามว่าจะทำธุรกิจอะไรในยามที่ราคาน้ำมันเริ่มกลับ มาพุ่งสูงขึ้น และมีแนวโน้มว่าราคาสินค้าอาหารก็จะขยับตัวเพิ่มขึ้นตามมาเป็นลูกระนาดแบบนี้ ผมก็อยากจะแนะนำให้ลองหันมามองธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟสด ดูครับ
ผมอยู่กับธุรกิจกาแฟมาตั้งแต่เกิดเพราะเป็นธุรกิจของครอบครัววงศ์วารีิ มานานถึง 52 ปีแล้วครับ หากมองย้อนกลับไปที่อโรม่า กรุ๊ป เริ่มรุกตลาดแฟรนไชส์ร้านกาแฟสดเมื่อ 10 ปีก่อน โดยเริ่มจากแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่ิ ไล่มาจนเป็นแบรนด์ที่จับลูกค้าระดับกลางถึงระดับล่างอย่าง ็ชาวดอยิ และ ็โอเค เอสเปรสโซ่ิ
ปัจจุบันทั้ง 3 แบรนด์นี้มีสาขารวมกันถึงเกือบ 400 สาขา ซึ่งผมตั้งเป้าว่า ในปีนี้จะขยายสาขาของชาวดอยและโอเค เอสเปรสโซ่ ให้ได้อีกอย่างละ 100 สาขา เพราะแนวโน้มธุรกิจการเปิดร้านกาแฟสด ที่เป็นร้านระดับแมสที่มีราคาขายแก้วละ 30-35 บาท ได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนไนน์ตี้-โฟร์ คอฟฟี่ ซึ่งเป็นร้านระดับพรีเมี่ยมที่มีขนาดใหญ่ มีอยู่ด้วยกัน 35 สาขา ปีนี้คาดว่าจะขยายให้ได้อีก 20 สาขา
จากข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่าปัจจุบันคนไทยยังดื่มกาแฟน้อยมาก แค่ประมาณครึ่งกิโลกรัม/คน/ปี หรือประมาณ 130-150 แก้ว/คน/ปี (เฉลี่ยไม่ถึง หนึ่งแก้ว/คน/วัน) ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่น ดื่มกาแฟเฉลี่ย 500 แก้ว/คน/ปี หรืออเมริกาที่ดื่มกาแฟเฉลี่ย 700 แก้ว/คน/ปี (หรือเฉลี่ย 2 แก้ว/คน/วัน)
สรุปว่า ธุรกิจกาแฟสดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก พูดง่ายๆ คือเป็นธุรกิจ ที่มีอนาคตนั่นเองครับ ร้านกาแฟสดโดยเฉลี่ยจะมีรายได้อยู่ประมาณวันละ 3,000-6,000 บาท และมีกำไรประมาณวันละ 1,000-2,000 บาท โดยกาแฟแก้วละ 30 บาท มีกำไร เฉลี่ย 65-70% ต่อแก้ว ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยนะครับ หากคุณบริหารต้นทุนค่าใช้จ่าย ได้ดี โดยเฉพาะเรื่องค่าเช่าที่หรือการจ้างลูกจ้างประจำร้านเพราะมันเป็นต้นทุน (Fix Cost) ที่คุณต้องจ่ายทุกเดือน
หากคุณลงทุนเปิดร้านด้วยเงินทุน 40,000-50,000 บาท แล้วขายได้วันละ 50 แก้ว เพียงแค่ 6เดือนคุณก็คืนทุนแล้ว แต่หากคุณขายได้วันละ 50-100 แก้ว ใช้เวลาแค่ 3 เดือนก็คืนทุน!!!
เห็นอย่างนี้แล้วหลายคนอาจจะคิดว่าการทำธุรกิจร้านกาแฟสดทำไม่ยาก แต่ผมบอกได้เลยครับว่าถ้าจะทำให้ดีให้ประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน
เพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ อโรม่า กรุ๊ป ก็ต้องใช้ความพยายามมากครับในการ ลองถูกลองผิด มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว มีทั้งสาขาที่เปิดเพิ่ม และสาขาที่ปิดตัวลงไป !!!


Wednesday, October 5, 2011

Vintage Style Cafe แต่งร้านกาแฟ สไตล์ วินเทจ


Vintage Style Cafe  แต่งร้านกาแฟ สไตล์ วินเทจ


หลายท่าน คงเคยมี แว๊บๆ ขึ้นมาว่า อยากจะเจอ ร้านกาแฟน่ารักๆ เอาไว้ นั่งฝันโน่นนี่ ไปเรื่อยๆทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อ


Neo Romantic Style






แบบ สวยๆ ของ ท่าน Srayut Designer ที่ไม่เคย ทำให้ผิดหวัง




Shop Design Production Decoration รับออกแบบ ตกแต่งร้าน Vintage style , Retro Style



งานแนว หวานๆ เชิญที่นี่เลย



3 D & Design Layout Srayut Interoir designer


กำลังติดตั้งหน้างาน setup เสี่ย วรรณ



รับออกแบบ ผลิต ติดตั้งร้านกาแฟ









Design by Srayut

( ขออภัย ไม่รับออกแบบฟรี+และไม่มีแบบ ส่งให้ดูก่อน คุยเรื่องแบบ เสียตังอย่างเดียว จ่ายก่อน ทั้งหมด แบบ กินโออิชิ ครับ)

เฉพาะ งานออกแบบ เก็บตัง งวด เดียวเมื่อสั่งงาน ไม่มีแบบ จ่ายหลายงวดครับ จ่าย ครั้งเดียว ทำจนเสร็จงานแบบ ส่งงาน ทาง อีเมลล์



กำกับ การแสดงโดย Here

Restaurant & coffee shop design

Email surapong18@gmail.com

Design-Production-Decoration



december 2008










 

 










 

 







Monday, August 1, 2011

วิธีการคำนวณรูปแบบการลงทุนร้านกาแฟ Stand Alone

วิธีการคำนวณรูปแบบการลงทุนร้านกาแฟ Stand Alone




กรณีร้านกาแฟในห้างสรรพสินค้า ใช้ขนาดพื้นที่ประมาณ 60 ตารางเมตร สัญญาเช่า 10 ปี ผู้ประกอบการใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 1.42 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร 1.27 ล้านบาท เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ประมาณ 1.48 แสนบาทต่อเดือน และหากผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายกาแฟได้ประมาณ 150 แก้วต่อวัน ในราคาเฉลี่ย 55 บาท โดยมีรายละเอียดที่จะต้องกำหนดขึ้น เพื่อการคำนวณดังนี้



งบประมาณ การลงทุน

รายการ                                                                                              จำนวนเงิน (บาท)


ค่าก่อสร้าง ออกแบบและตกแต่งสถานที่                                       800,000
ค่าระบบไฟฟ้า                                                                                         50,000
ค่าระบบประปา                                                                                        15,000
ค่าระบบโทรศัพท์                                                                                     5,000
ค่าระบบเก็บเงิน                                                                                       50,000

รวมเงินลงทุน                                                                                          920,000


อุปกรณ์



รายการ                                                                                       จำนวนเงิน (บาท)

เครื่องชงกาแฟ                                                                               200,000
เครื่องบดกาแฟ                                                                                 30,000
เครื่องปั่น                                                                                            40,000
เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ                                                                         20,000
อุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ                                                                   20,000
อุปกรณ์เครื่องเสียง                                                                          20,000
เครื่องเก็บเงิน                                                                                    20,000


รวมค่าอุปกรณ์                                                                             350,000



รวมเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวร   1,270,000



เงินทุนหมุนเวียน

147,500



รวมเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,417,500

การลงทุน สำหรับธุรกิจ ร้านกาแฟ

การลงทุน




ธุรกิจร้านกาแฟมีลักษณะการลงทุนใน 3 รูปแบบหลักๆ ดังนี้


1. ร้าน (Stand - Alone) เป็นอาคารอิสระหรือห้องเช่าที่มีพื้นที่ประมาณ 50 ต.ร.ม. ขึ้นไป ร้าน Stand - Alone อาจตั้งอยู่ตามย่านชุมชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน หรือพลาซ่าใหญ่ๆ



2. คอร์เนอร์ (Corner/Kiosk) ร้านกาแฟขนาดกลาง ใช้พื้นที่ประมาณ 6 ต.ร.ม.ขึ้นไป ลักษณะเป็นมุมกาแฟภายในอาคาร ศูนย์การค้า หรือพลาซ่า ร้านกาแฟประเภทนี้อาจจัดให้มีที่นั่งจำนวนเล็กน้อย



3. รถเข็น (Cart) ร้านกาแฟขนาดเล็ก ใช้พื้นที่ประมาณ 3 ต.ร.ม. สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หาทำเลที่ตั้งได้ง่าย ทำให้เข้าถึงตลาดได้ทุกระดับ


โครงสร้างการลงทุน



รูปแบบร้าน (Stand - Alone )



ร้านกาแฟในรูปแบบ Stand Alone จะใช้เงินลงทุนเริ่มแรกประมาณ 800,000 ถึง 1,500,000 บาท ซึ่งโครงสร้างต้นทุนของร้านกาแฟรูปแบบนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน คือ
1. ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ประมาณ 90% ได้แก่

- ค่าก่อสร้าง ออกแบบและตกแต่งสถานที่

- ค่าวางระบบต่าง ๆ (ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ ระบบเก็บเงิน)


- ค่าอุปกรณ์


2. เงินทุนหมุนเวียนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้น ประมาณ 10 % ได้แก่



- ค่าวัตถุดิบสินค้า



- ค่าบรรจุภัณฑ์



- ค่าจ้างพนักงาน



- ค่าเช่าพื้นที่



- ค่าน้ำ ค่าไฟ



- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

การลงทุนดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่าง ให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้เห็นรูปแบบการลงทุนของร้านกาแฟแบบ Stand Alone คร่าว ๆ หากผู้ประกอบการบางรายมีความพร้อมด้านสินทรัพย์ถาวรบางรายการ หรือคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้เข้ามาได้ทันกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น ผู้ประกอบการก็สามารถปรับลดสัดส่วนของสินทรัพย์ถาวรหรือเงินทุนหมุนเวียนที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้นลงได้ ฉะนั้น สัดส่วนโครงสร้างการลงทุนจึงขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในธุรกิจของผู้ประกอบการเองด้วย

ธุรกิจร้านกาแฟ การลงทุน และสิ่งที่ควรพิจรณา



วิวัฒนาการของร้านกาแฟ



เริ่มจากรถเข็นขายกาแฟที่เราท่านเคยเห็นกัน จะมีถุงลวกกาแฟแล้วเทใส่น้ำตาล ใส่นม คนให้เข้ากัน แล้วก็ต้องทานกับปาท่องโก๋ ซึ่งเป็นของคู่กัน และมีโต๊ะกลมและเก้าอี้นั่ง มักจะพบเห็นได้ตามตลาดสด สถานที่คนพลุกพล่าน ฯลฯ และ Design จะเป็นแบบเรียบ เน้นขายผลิตภัณฑ์มากกว่าขาย Design หรือรูปลักษณ์



ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวของธุรกิจร้านกาแฟเป็นไปอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีผู้สนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากธุรกิจร้านกาแฟยังเปิดกว้างอยู่ แต่อย่างไรก็ตามการทำธุรกิจใดๆ ต่างมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ธุรกิจร้านกาแฟก็เช่นกัน แม้จะเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตอยู่ ตราบใดที่กาแฟยังสร้างสุนทรีย์ให้กับผู้ที่รักการดื่มได้ แต่การทำธุรกิจตามกระแส ผู้ประกอบการอาจไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวังไว้ ผู้ที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้จึงควรศึกษาข้อมูลบางส่วนไว้ ดังนี้







ลักษณะของผู้ประกอบการ



- ผู้ประกอบการที่สนใจจะลงทุนธุรกิจร้านกาแฟ ควรมีความพร้อมในเรื่องของเงินลงทุนอยู่บ้างพอสมควร



- ผู้ประกอบการต้องมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมต่อการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากหัวใจสำคัญของการทำร้านกาแฟอยู่ที่การเลือกทำเลที่ตั้ง หากขาดทำเลที่ตั้งที่ดีแล้ว โอกาสประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านนี้นับว่ายากลำบากอยู่พอสมควร



- ผู้ประกอบการควรมีความรู้ในศาสตร์ของกาแฟอยู่บ้าง เพราะการผลิตเครื่องดื่มกาแฟถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน ความเข้าใจในส่วนนี้จะช่วยในเรื่องการขาย การบริการ และการพัฒนาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ดีย

Thursday, July 7, 2011

10 สูตรกาแฟสดร้อน –เย็น สำหรับร้านกาแฟสดเล็กๆ ที่เน้นคำว่า”กาแฟสด”

10 สูตรกาแฟสดร้อน –เย็น สำหรับร้านกาแฟสดเล็กๆ ที่เน้นคำว่า”กาแฟสด” ให้กับลูกค้าที่รักการดื่มกาแฟสด ก่อนอื่นต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า การชงกาแฟสดมีหลากหลายวิธี ตามแต่ความชอบและอุปกรณ์ที่คุณสามารถจัดหาได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือกาแฟสดคั่ว ที่มีการคั่วหลากหลายระดับ กาแฟหลายสายพันธุ์ กาแฟสด 2สายพันธุ์เด่นๆที่คงพอจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ที่ปลูกในประเทศไทยเรา คือ “อราบิก้า” และ “โรบัสต้า” ต่างก็มีสายพันธุ์ย่อยอีกหลายชนิด (สามารถหาข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ตหรือจากเว็บบล็อกของผู้เขียนได้นะคะ ส่วนการเลือกกาแฟคั่วให้เหมาะกับการนำมาชงในแต่ละสูตร เพราะกาแฟร้อน–เย็นมีความแตกต่างของสัดส่วนความหวานลื่นๆต่างกันไป




สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการชงกาแฟแบบอร่อยในบ้านหรือจะนำไปเปิดร้านเล็กๆหน้าบ้าน แบบตั้งคีออสพอหลบแดด-ฝนได้ ก็ไม่ผิดกติกาสภากาแฟนะ

กาแฟคั่ว/นมสด100%/น้ำตาลทรายหรือทำเป็นน้ำเชื่อม/นมข้นหวาน/นมข้นชนิดไม่หวาน/แก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มตามความชอบ
กาแฟกาแฟร้อนขนาด 8-10 ออนซ์/แก้วกาแฟ 3-4 ออนซ์ /แก้วตวงขนาด 2 ออนซ์ หรือจะมีตัวเลขความจุที่ 45 cc หรือ ml/ ช้อนคนกาแฟ
ก่อนอื่นสิ่งที่สำคัญสำหรับนำไปเป็นส่วนผสมหลัก คือ กาแฟเอสเปรสโซ่นั่นเอง




สูตรเอสเปรสโซ่ Espresso Recipes



• กาแฟคั่วกลาง Medium Roasted 10 กรัม/g, หรือ ประมาณ 1 ½ ช้อนตวงกาแฟบด หรือ

• กาแฟคั่วเข้ม Espresso Roasted 8 กรัม/g.
วิธีชง



นำกาแฟมาบดแล้วชงด้วยเครื่องชงกาแฟ กลั่นให้ได้น้ำกาแฟประมาณ 25 - 30 ซีซี กาแฟเอสเปรสโซ่คือกาแฟที่จะนำไปเป็นส่วนผสมหลักในกาแฟสูตรร้อน-เย็นอื่นๆ ที่จะนำมาให้ลองชงกันดูนะคะ



หลังจากชงกาแฟเอสเปรสโซ่ได้แล้ว ก็มาลองนำสูตรที่แนะนำและถึงแม้จะเป็นสูตรพื้นๆ แต่ก็น่าจะทำให้มือใหม่ๆได้ลองชงลองชิมนะ

*tip น้ำหนักกาแฟคั่วจะมีน้ำหนัก-เบา ที่แตกต่างกันตามลักษณะการคั่ว ดังนั้นการที่จะนำเอามาตรฐานน้ำหนักของกาแฟคั่วตัวใดตัวหนึ่งมาบอกเป็นตัวเลขกำหนดว่า 8-10 กรัมนั้นจะเป็นค่าเฉลี่ย ของน้ำหนักกาแฟคั่ว เมื่อนำมาบดจะให้ปริมาณผงกาแฟต่างกันไปด้วย จึงควรขอความรู้จากผู้สอนชงกาแฟ หรือหากจะเรียนรู้ด้วยตนเองก้ไม่ยากเพียงแค่ใช้การตวงกาแฟที่บด ด้วยการตักใส่ในตะแกรงที่มีตั้งแต่ 1-2 หรือจะมีคนแนะนำให้เลือก แบบ 3ชอท มาใช้ซึ่งอันหลังเพิ่งจะได้ยินจากคนขายเครื่องชงที่แนะนำ แต่หากรู้จักสังเกต ตระแกรง 1ชอทจะไม่ลึกเท่ากับ 2ขอท เมื่อซื้อเครื่องชงมาจะมีมาให้ 2ขนาดคือ ตระแกรงแบบ 1และ2ชอท คือ 1ชอทสำหรับคนชอบกาแฟไม่เข้มเกินไปการตวงด้วยการตักกาแฟที่บดแล้วพอดีตระแกรงแล้ว กดด้วยเทมเปอร์ อีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นเหมือนกันสำหรับการใช้เตรียมกาแฟก่อนชง ดังนั้นเมื่อจะบดกาแฟ จะได้คำตอบว่าเครื่องรุ่นที่คุณใช้ควรบดกาแฟละเอียด-หยาบอย่างไรและจำเป็นหรือไม่ที่ต้องกดด้วยตัวกดกาแฟ(เทมเปอร์)เพื่อช่วยให้เกิดแรงกดเมื่อนำไปชง การไหลของกาแฟจะได้น้ำกาแฟที่เข้มขึ้น ก็น่าจะอยู่ที่การทำความเข้าใจและรู้พื้นฐานของเครื่องชงที่คุณมีด้วยนะ




กาแฟคาปูชิโน่ Cappuccino Toffee Nut


กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อท Espresso 1 Shot [Arabica 100%Medium Roasted]


น้ำเชื่อมกลิ่นท็อฟฟี่นัท 10 ซีซี Toffee Nut Syrup 10 ml.

ฟองนม Milk Frothing

(จากการนำนมสดมาเป่าด้วยเครื่องชงกาแฟ ที่จะมีท่อสำหรับเป่าลมร้อนได้ หรือจะอุ่นนมให้ร้อนแล้วนำมาตีด้วยเครื่อง ตีฟองนมมือ) สามารถชมได้จากคลิปวีดีโอ

วิธีการชงกาแฟ

นำแก้วกาแฟขนาด 8 ออนซ์ นำมาอุ่นด้วยการใส่น้ำร้อนแล้วทิ้งไว้ ระหว่างที่เตรียมกาแฟมาชงด้วยเครื่องชง เมื่อนำใส่ในหัวกรุ๊ปให้เทน้ำร้อนที่ใส่ในถ้วยกาแฟที่เตรียมไว้ เติมน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปนำแก้วกาแฟไปรอง เมื่อได้กาแฟแล้วนำ ฟองนมมาตักลงไปบนกาแฟ เวลาตักฟองให้พูนช้อน ให้ได้ฟองฟูบนน้ำกาแฟ แล้วเติมน้ำนมลงไปเล็กน้อย จะโรยผงอบเชยป่นเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมและให้ได้อารมณ์ของกาแฟคาปูชิโน่ ที่ต้องมีกลิ่นหอมอ่อนๆของ เครื่องเทศอย่างอบเชยป่น



** หลายคนบอกอบเฃยบนฟองนมทำให้รู้สึกเหมือนดื่มกาแฟรสพะโล้ จริงๆแล้วอบเชยนั่นมีมากมายหลายชนิด ให้กลิ่นต่างไปตามแหล่งปลูก ถ้าจะให้คิดก้คงไม่ต่างจากกาแฟสด ที่ปลูกกันหลายประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศไทย ก็ยังเถียงกันเรื่องกลิ่น เรื่องรสชาติว่าอย่างโน้นอย่างนี้ อบเชยที่เป็นเครื่องเทศที่นำมาปรุงแต่งอาหารหรือนำมาใช้ในเครื่องดื่มเอง ก็ต้องเลือกชนิดและควรรู้ว่าแต่ละที่มามันให้รสกลิ่นอย่างไร แต่หากไม่ไปกังวลหรือจริงจังจนทำให้กาแฟหนึ่งถ้วยเป็นเรื่องใหญ่ อบเชยป่นที่ขายในซุปเปอรืในขวดหลากยี่ห้อ สามารถนำมาโรยได้ ก้ให้ดมกลิ่นก่อนที่ซื้อมาใช้เท่านั่นเอง



กาแฟม็อคค่าวนิลาครีม Mocha Vanilla Whipped Cream




กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท Espresso 2 Shot

โกโก้หรือช็อคโกเลตซอส 10 ซีซี Cocoa or chocolate Sauce 10 m

น้ำเชื่อมกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา Vanilla syrup 1 tea spoon

วนิลาวิปปิ้งครีม Vanilla Whipped Cream

วิธีชง



เติมซอสโกโก้และน้ำเชื่อมกลิ่นลงไปในแก้ว แล้วชงกาแฟให้ได้ปริมาณ 50 ซีซี แล้วบีบวิปปิ้งครีมลงไปบนกาแฟ เวลาดื่มจะได้ความหอมของกาแฟและรสหวานมันของกาแฟที่ผสมไปด้วยวิปปิ้งที่ละลาย ความชอบขึ้นอยู่กับผู้ดื่ม ที่ชอบความหวานมันของสูตรนี้นะคะ

กาแฟฮาเซนัท ลาเต้ Hazelnut Latte Coffee




กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อท Espresso 1 Shot [Arabica 100%Medium Roasted or Espresso Roasted]

น้ำเชื่อมกลิ่นฮาเซนัท 10 ซีซี Hazelnut Syrup 10 ml.

ฟองนมร้อน Milk Stream
วิธีชง
เติมน้ำเชื่อมกลิ่นแล้วชงกาแฟ เติมนมร้อนลงไป ประมาณ 5 ออนซ์ แต่งด้วยฟองนมเล็กน้อยหรือจะแต่งเป็นรูปต่างๆตามความถนัด หรือไม่ต้องก็ได้


ความต่างของกาแฟสูตรลาเต้และคาปูชิโน่ ต่างกันที่ปริมาณของนมร้อน และฟองนม โดยทั่วไปจะเป่าฟองนมให้เป็นฟองนมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกชั้นฟองกับน้ำนม เมื่อเติมลงไปใน ถ้วยกาแฟที่มีเอสเปรสโซ่แล้วจะได้กาแฟรสนม นุ่มละมุนกรุ่นกลิ่นนมและกาแฟที่ลงตัว ส่วนกาแฟคาปูขิโน่จะได้ความเข้มของกาแฟ ที่มีกลิ่นหอมของฟองนมและอบเชยป่น ความเข้มข้นของกาแฟ ที่มีฟองนมเนียนอยู่ด้านบน จึงจะได้ 2รสชาติกาแฟและฟองนมที่แยกกันชัดเจน โดยทั่วไปการดื่ที่มีการเติมน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลทรายเพื่อเพิ่มความหวานจะไม่นิยมคนให้ฟองและกาแฟ ปนกัน เพียงแค่จุ่มช้อนกาแฟลงไปคนในส่วนก้นแก้วให้น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมละลาย โดยที่ไม่ให้ฟองนันแตกตัวไปปนกับน้ำกาแฟ เวลายกขึ้นดื่มจะได้ย้ำกาแฟเข้มข้นตามด้วยฟองที่จะเข้าไผสมกันในปากเมื่อดื่มจะได้รสกาแฟเต็มปากชุ่มคอตามด้วยหอมนมและรสมันของนมที่เป่าให้ได้ครีมนม(ผู้เขียนไม่เก่งในการเขียนหรืออธิบายมากนัก หากแต่ต้องชงและสัมผัสด้วยตนเอง ถึงรสชาติกาแฟที่ชงให้ถูกต้องและดื่มให้เป็น เท่านี้การมาถกเถียงถึงวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เรายืมต่างชาติหรือเจ้าของวัฒนธรรมมาใช้คงจะลดลงหรือหมดไปสักที

*ถึงอย่างไรใครจะชอบวิธีดื่มแบบไหน แบบที่เป็นตนเองก้ไม่มีกติกาห้าม เพียงแต่หากดื่มแล้วไม่ถูกอกถูกใจ ไม่มีอะไรดีไปกว่าการบอกหรือแนะนำตรงๆ บอกความต้องการของคุณให้คนชงกาแฟรู้ จะดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ใจใครโดยที่ไม่เรียนรู้กันก่อน เจ้าของร้านกาแฟพร้อมที่จะทำให้ถูกใจคุณอู่แล้ว การให้กำลังใจกันและกันเป็นสิ่งที่น่าทำเป็นที่สุด ผู้เขียนเชื่อว่า ทุกคนอยากให้ลูกค้าประทับใจกาแฟที่เขาได้ชงทุกคน


กาแฟเอสเปรสโซ่คอน ปันนา Esprsso Con Panna



ส่วนผสม

กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ชอท Espresso 1 Shot [ Serve with 3 Oz cup ]

วิปปิ้งครีม Whipped Cream

วิธีฃง อุ่นแก้วให้ร้อน ด้วยการเติมน้ำร้อนลงในแก้ว เมื่อแก้วเริ่มมีความร้อนก็เทน้ำทิ้งไป แล้วนำแก้วที่อุ่นไปรองน้ำกาแฟ แล้วบีบวิปปี้งครีมลงบนฟองกาแฟแบบในภาพ ครีมจะละลายในกาแฟและเมื่อดื่มจะดื่มให้หมดด้วยควารวดเร็ว จะไม่จิบแบบกาแฟร้อนอื่นๆ เพราะปริมาณของกาแฟที่เสิร์ฟด้วย ถ้วยเล้กๆ อย่าง เอสเปรสโซ่ที่นิยมดื่มให้หมดเมื่อเสิรืฟ เพราะหากปล่อยให้กาแฟเย็นลงทำให้รสชาตที่ดีหายไปได้ หรือใครอาจจะชอบดื่มกาแฟที่ไม่ร้อน แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสั่งเอสเปรสโซ่ หรือ กาแฟถ้วยเล็กๆ อย่าง เอสเปรสโซ่คอนปันน่า หรือ เอสเปรสโซ่มัคคีอาโต้ แล้วมานั่งจิบทีละนิดเป็นแน่



* กาแฟเอสเปรสโซ่มัคคีอาโต้ หรือ Espresso Macchiato คือกาแฟเอสเปรสโซ่ ที่หยอดฟองนมลงไป เข้าใจว่าคนที่ชอบกาแฟดำถ้วยเล็กๆ แต่อยากเพิ่มความมันจากครีมหรือฟองนม จึงเกิดสูตรนี้มา แต่ส่วนความเป็นมาอย่างไรจะหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ แต่นั่นสิคนเรานานาจิตตัง เหมือนกาแฟเข้มข้นๆอย่างเอสเปรสโว่แต่เพิ่มความหอมมันจากวิปปิ้งครีม การดื่มเครื่องดื่มปรุงแต่งรส ก้น่าจะมีผลมาจากวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ที่มีวัฒนธรรมการกิน ดื่มที่แตกต่างกันไป การที่มีการติดต่อระหว่างประเทส ก็เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมต่างๆ การนำสิ่งที่เป็นต้นแบบมาปรับเปลี่ยนให้ถูกปาก ถูกใจอย่างอาหารหรือเครื่องดื่มก็ต้องยืนพื้นให้ตรงกับลิ้นคนไทยเรา อย่างการกินอาหารรสเผ็ด แต่เรารับอาหารรสจืด แต่ต้องมาปรุงรสให้มีความเผ้ดเค็มหรืออื่นๆเพิ่มขึ้น อย่างกาแฟเองคงจะไม่ต่างไปมากนักกับการมาปรุงแต่งหรือ ปรับสูตร แม้กระทั่งต้องคิดสูตรใหม่ๆที่ทำให้คนไทยอย่างเราๆรับได้ ต่างชาติก็เช่นกัน ชอบอาหารไทยแต่ก็ยังต้องปรับรสเผ้ดให้ลดลง ถ้าจะกินแบบคนไทยคงต้องใช้เวลานานพอสมควร เหมือนกาแฟเราที่รับมาเกือบ 100ปีแล้ว ยังปรับยังรับกันไม่ได้ทั้งหมดเลย อย่าคิดมากไปมันคือกาแฟ เราชอบแบบไหน รสไหนก้สุดแท้แต่ความชอบของเราแต่อย่างไรก้ควรรู้พื้นฐาน หรือความเป็นกาแฟของแต่ละสูตรไว้บ้าง จะได้นำมาลดหรือเพิ่มในแบบของเราได้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี ชงกาแฟแบบเข้าใจเครื่อง เข้าใจกาแฟ(จริงๆเราต้องเข้าใจตนเองว่าทำอะไรด้วย)การชงกาแฟเอสเปรสโซ่ที่ดีได้เหมาะกับเครื่องชงที่ตนมี ก้คงพอจะให้นำเอสเปรสโซ่ไปผสม สูตรกาแฟเย็นอื่นๆ ที่จะนำมาฝากได้นะ

กาแฟม็อคค่าเย็น Ice Mocha Coffee Recipe






ส่วนผสม

เอสเปรสโซ่ 2 ชอท Espresso 2 Shot [60 ml]Espresso Roasted Bean

ผงโกโก้ 1 ช้อนชา Cocoa powder 1 tea Spoon

ครีมเทียมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ Sweetened Condensed Creamer 1 table Spoon

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ Sugar 1 table Spoon

นมสด 1 ออนซ์ Fresh Milk 1 Oz

น้ำแข็งบด Ice

วิธีชง



ชงกาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท (ใช้กาแฟบดประมาณ16-20 กรัม จะใช้คั่วกลางหรือเข้มก็ได้) ใส่ผงโกโก้และน้ำตาลทรายลงในถ้วยชงกาแฟตามด้วยเอสเปรสโซ่ที่ชงมาร้อนๆ



ผสมลงไปคนจนละลาย เติมส่วนผสมอื่นๆลงไป คนจนเข้ากันดีเติมลงในแก้วกาแฟที่เติมน้ำแข็งไว้ พร้อมเสิร์ฟ สูตรนี้ใช้แก้วขนาด 16 ออนซ์



ม็อคค่าบราวแซนเย็นด์ Ice Mocha Brown sand Recipes


ส่วนผสม



กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ชอท Espresso 1 shot [use2 shot basket coffee ground about 20g.]

ผงโอวัลติน 1 ช้อนชา Ovaltine 1 tea spoon

น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ Sugar 1 table spoon

ครีมเทียมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ Sweetened Condensed Creamer 1 table Spoon

ฟองนม

น้ำแข็งบด

วิธีชง

ผสมกาแฟเอสเปรสโซ่ และผงโอวัลลติน น้ำตาลทรายให้ละลายเข้ากัน เติมครีมเทียมข้นหวาน แล้วเทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็ง แต่งด้วยฟองนม

และผงโอวัลติน แบบในภาพ พร้อมเสิร์ฟ จะให้รสชาตที่หอมอร่อยทั้งกลิ่นและรส กาแฟบวกกับโอวัลตินที่ลงตัว ส่วนเรื่องความหวานก็เพิ่มหรือ

ลดลงตาแต่ความชอบ ใช้แก้วขนาด 16 ออนซ์นะคะ



กาแฟคาปูชิโน่เย็น Ice Cappuccino Coffee



ส่วนผสม

กาแฟเอสเปรสโซ่ 2 ชอท Espresso 2 Shot

น้ำเชื่อม 3/4 ออนซ์ Syrup 3/4 oz

นมข้นชนิดจืด 3/4 ออนซ์ Daily Creamer 3/4 oz

ฟองนม/น้ำแข็งบด

วิธีชง

ผสมกาแฟเอสเปรสโซ่ น้ำเชื่อม นมข้นชนิดจืด คนให้เข้ากัน เทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งบด แต่งด้วยฟองนม โรยด้วยอบเชยป่นเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ

ใช้แก้วขนาด 16-18 ออนซ์



**กาแฟสูตรนี้มักจะมีการนำมาวิพากวิจารณ์กันถึงรสชาติและการชง อย่างโน้นอย่างนี้ ผู้เขียนก็พัฒนาตามสูตรร้อนที่มีอยู่แล้วนำมาปรับเปลี่ยนเล็กน้อยส่วนกาแฟอีกสูตรคือลาเต้เย็น ที่มีปัญหาสำหรับคนชงกาแฟ ที่มักจะเจอเซี่ยนชั้นเทพบ้างละ รู้เฟื่องเรื่องกาแฟบ้างละ จริงๆแล้วผู้เขียนไม่ได้ไปคิดอะไรมากมายกับคำพูดต่างๆ แต่ก็นำมาปรับและแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มาเรียนชงเครื่องดื่มกับผู้เขียน เพราะทุกคนมีความชอบ ความพอใจในรสชาตกาแฟต่างกันไป แต่หากเราทำส่วนผสมให้ได้ดีรสชาตออกมาดี พอที่จะทำให้ลูกค้าพอใจ รับได้กับราคาที่สมเหตุสมผลราคาและบริการไปในทิศทางเดียวกัน ขนาดของร้านที่ดูธรรมดา ตกแต่งพอประมาณใช่ว่าจะบริการไม่ดีเท่าร้านใหญ่แบรนด์ดังๆไม่ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้าที่จะให้คำตอบเราได้ทำหน้าที่ของเราในการชงกาแฟที่เน้นตามลูกค้าบ้างโดยต้องมีเทคนิคและความชำนาญในการแก้ไขปัญหาเพาะหน้า และการมีความรู้ความสามารถเฉพาะตัวในการทำให้ลูกพอใจ กาแฟจะชงแบบไหนก็อย่าให้ไกลจากต้นฉบับไปมากนัก อย่างน้อยการเคารพต้นแบบเป็นสิ่งหนึ่งที่ควรจะทำ เพราะเราเอาสิ่งที่มาก่อนมาใช้ประกอบอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่เรา การให้กลับด้วยการอ้างอิงถึงในทางที่ดี เป็นสิ่งที่งดงามเสมอสำหรับการได้อยู่ร่วมกัน ส่วนใครอยากมีสูตรใหม่ๆก็ไม่ผิดกติกามารยาทอีกเช่นเคย

กาแฟเย็นปั่น Ice Coffee Frappe



กาแฟปั่น Ice Coffee Frappe

ส่วนผสม

กาแฟเอสเปรสโซ่ 2ชอท

นม้นหวาน 1 ออนซ์

น้ำเชื่อม 1 ออนซ์

น้ำแข็ง 1 แก้ว



นำทั้งหมดผสมกันแล้วนำไปปั่น ให้เป็นเนื้อเดียว ถ้าอยากได้ความหอมอร่อยอาจจะเพิ่มน้ำเชื่อมกลิ่นที่คุณชอบเพิ่มได้ อยากได้กาแฟปั่นที่มีรสกาแฟแนะนำอย่าผสมหวานเกินไป เพราะกลิ่นของนมข้นหวานและส่วนผสมอื่นๆอาจจะทำให้กลิ่นกาแฟหายไปบ้าง จะให้ดีเลือกกาแฟคั่วที่เข้มหน่อย กาแฟที่ผุ้เขียนชอบคงเป็นอราบิก้ามากกว่า กาแฟที่ผสมโรบัสต้า เคยสั่งกาแฟอราบิก้า100 เปอร์เซ็นมาใช้ แต่แกะออกมามีกาแฟโรบัสต้าปนมา แต่ก้พอให้อภัย แต่เจอบ่อยๆคงไม่ไหว ต้องบอกแหล่งคั่วไปตรงๆ พอรับไม่ได้ไม่อยากขายให้ เราก้เลือกจากที่อื่นได้ เพราะมีให้เราเลือกซื้อมากมายในเว็บไซด์ ที่คุรเองก็สามารถเลือกขอตัวอย่างมาชิมได้หากไม่มั่นใจ เพราะการตลาดของโรงคั่วทำกันแบบนี้ แต่หากตัวผู้เขียนจะเริ่มจากการเชื่อมั่นในความเป็นคนไทยด้วยกัน และสิ่งสำคัญคือการอ่านข้อมูลของสินค้าให้ครบถ้วน หากสั่งมาแล้วผิดหวังก็เลือกขอมาลองชิม เพื่อดูเมล้ด ดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร จะได้ไม่ผิดหวังเพราะอย่างที่บอก ผู้เขียนสั่งกาแฟจากแหล่งคั่วกาแฟทั่วไปๆ และจะสั่งเดิมๆอยู่จนกว่าเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบไม่แจ้งกันล่วงหน้า คงจำเป็นต้องเปลี่ยนที่ซื้อได้ เพราะกาแฟไทยไม่ว่าของเจ้าไหนก้อร่อยไม่แพ้ใครในโลก ด้วยแหล่งปลุกเองหากไม่เสียเวลาที่จะศึกษามาจากแหล่งปลุกไม่กี่แห่ง ถึงจะแตกออกไปเพราะจำนวนพื้นที่ที่มีมาก แต่ก้ไม่ต่างสายพันธุกันมากนัก และจะต่างก้ขึ้นอยู่กับการปลุกและการดูแล ความสูงของที่ปลุกและมีปัจจัยอื่นๆ ที่พอรู้และทำความเข้าใจ เพียงเท่านี้เราก้สามารถอุดหนุนคนไทยด้วยกันตามความชอบและพอใจในการบริการและการขนส่ง แบ่งปันกำไรการค้าขายให้เงินหมุนเวียนดีขึ้นในธุรกิจกาแฟขนาดเล้ก ที่มีเยอะมากมายเป็นจำนวนใหญ่ได้

ใครที่ยังมองว่าทำค้าขายเฉพาะรายใหญ่ๆ คงบอกว่าเป็นคนที่มองข้ามสิ่งที่มีค่าและสำคัญไม่แพ้กัน กาแฟปั่นอาจจะต้องใช้เทคนิคเล้กน้อยในการควบคุมปริมาณน้ำกาแฟที่ผสมแล้วให้มีสัดส่วนพอดีกับแก้วที่จะใส่เมื่อปั่นเสร็จแล้ว เพียงเท่านี้ก็น่าจะได้กาแฟปั่นที่ดุว่ายุ่งยาก ได้ง่ายขึ้น



จิงเจอร์เบรดค็อฟฟี่ Ginger Bread Coffee



ส่วนผสม

กาแฟเอสเปรสโซ่ 60 ซีซี

น้ำเชื่อมกลิ่นจิงเจอรืเบรด 10 ซีซี

นมร้อน และฟองนม เหมือนกับที่ใช้ทำสูตรคาปูชิโน่



ชงแบบเดียวกับกาแฟคาปูชิโน่ จะต่างตรงที่มีนมร้อนเยอะกว่า สูตรนี้ใช้แก้วขนาด12ออนซ์เสิร์ฟ



ขอจบด้วยกาแฟร้อนสูตรนี้ที่ชงไว้นานแล้วเหมือนกันนะคะ ส่วนท่านใดอยากปรับเปลี่ยนความหวานน้อยมาก ก้ตามแต่จะเหมาะสม ไม่ว่ากัน แต่จะให้ดีหากแนะนำติชมกันมาให้รู้บ้างจะดีมากได้ทำการแลเปลี่ยนกัน และแชร์ให้คนอื่นๆได้นำไปใช้ปรับสูตรด้วยนะ